วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

1.นศ.แก้เกรดในใบ รบ., 2.คณะวิทยากรกี่คน จึงจะเบิก ชม.ละ 600, 3.ขรก.ครูขอย้าย ต้องแนบหลักฐานอะไร, 4.พานักศึกษาไปต่างจังหวัดไม่ค้างคืน ขออนุญาตตามคำสั่งมอบอำนาจฉบับใด, 5.เปิดอาชีพจริง จำนวนผู้เรียนเกินในโครงการ ต้องบันทึกเหตุผลหรือไม่, 6.พนักงานราชการที่จะเกษียณ ต้องประเมินหรือไม่, 7.เบิกจ่ายค่าดำเนินการสอบกลางภาค แบบเดียวกับสอบปลายภาคได้หรือไม่



สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้  7  เรื่อง ดังนี้
 

         1. เช้าวันที่ 26 ก.ค.59 มีผู้ถามต่อจากที่ผมโพสต์ในเฟซบุ๊ค ว่า  กรณี นศ.แก้ใบ รบ. เปลี่ยนเกรดเฉลี่ยให้มากขึ้นเอง จะทำอย่างไร ( สมัยก่อน ใบ รบ ใช้ปากกาเขียน )

             ผมตอบว่า   ให้ตอบกลับไปไปยังหน่วยงานที่เขาส่งใบ รบ.มาให้เราตรวจสอบ ว่า ใบ รบ.มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกรดเฉลี่ย ถือเป็นใบ รบ.ชำรุด ใช้ไม่ได้  ( ให้ นศ.มาทำใบ รบ.ใหม่ )

         2. เย็นวันที่ 4 ส.ค.59 จ่าจ้า แหม่ม ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า  เกณฑ์การจ่ายกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ค่าตอบแทนวิทยากรเป็นคณะนั้น หมายถึงคณะต้องประกอบด้วยกี่คน ถึงจะได้ ชม.ละ 600

             ผมตอบว่า
             - ถ้าเป็นวิทยากร 1-2 คนในเวลาเดียวกัน เบิกได้ไม่เกินชั่วโมงละ 200 บาท/คน
             - ถ้าร่วมกันเป็นวิทยากร 3 คนขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เบิกได้ไม่เกินชั่วโมงละ 600 บาท/คณะ

         3. วันที่ 8 ส.ค.59 มี ผอ.กศน.เขต โทร.มาถามผมแทนลูกน้อง ว่า  ขรก.ครูขอย้าย จะต้องแนบเอกสารหลักฐานแบบที่ ผอ.สถานศึกษาแนบขอย้ายหรือไม่

             ผมตอบว่า   การขอย้ายของข้าราชการครู ไม่มีแบบประเมินฯอย่าง ผอ.สถานศึกษา การขอย้ายกรณีปกติ ไม่ใช่กรณีพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องแนบเอกสารหลักฐานอื่นแบบ ผอ.สถานศึกษา
             โดยคณะกรรมการพิจารณาย้าย จะมีเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการ
             แต่ก็สามารถแนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ตามเหตุผลที่ขอย้าย ที่จะแสดงให้คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า ตนสมควร/จำเป็น/เหมาะสม กับสถานศึกษาที่จะย้ายไป มากกว่าคนอื่นที่ยื่นขอย้ายไปยังตำแหน่งเดียวกัน ก็ได้ เช่น ทะเบียนบ้านของตนหรือครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่ที่ขอย้ายไปซึ่งจะต้องไปดูแล  วุฒิการศึกษา/สาขาวิชาเอก/ความรู้ความสามารถพิเศษที่เป็นที่ต้องการ/ขาดแคลน ของสถานศึกษาที่ขอย้ายไป ..

         4. วันเดียวกัน ( 8 ส.ค.) มีผู้โทร.มาถามผมจาก กศน.อ.แห่งหนึ่ง บอกว่า ผอ.กศน.อ.ให้ถามว่า  การพานักศึกษาไปทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ที่ต่างจังหวัด ไม่ค้างคืน ต้องขออนุญาตตามคำสั่งมอบอำนาจฉบับใด

             ผมตอบว่า   การจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องอ้างคำสั่งมอบอำนาจทุกอย่าง จะอ้างคำสั่งมอบอำนาจเฉพาะเรื่องที่เป็นอำนาจของผู้อื่นเช่นอำนาจของปลัดกระทรวง แต่เรื่องที่มีระเบียบกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหรือบทบาทหน้าที่ของหัวหน้าสถานศึกษาหรือ ผอ.กศน.จังหวัดโดยตรง ก็ไม่ต้องอ้างคำสั่งมอบอำนาจ  ( ผมเคยตอบเรื่องนี้ใน ข้อ 6 (4) ที่  https://www.gotoknow.org/posts/436408 , ข้อ 2 ที่  https://www.gotoknow.org/posts/484069 )

             ในเรื่องของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนนี้ ถ้าไปนอกเขต ไม่ว่าจะค้างคืนหรือไม่ ต้องได้รับความเห็นชอบแผนงาน หรือโครงการ จาก ผอ.กศน.จังหวัด  ( อ้าง กรอบการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ข้อ 3.3 ดูได้ที่  https://db.tt/lke71Gou )

             ส่วนในขั้นตอนของการขออนุญาตเดินทางไปราชการ แบ่งเป็น 2 ส่วน
             - ส่วนของนักศึกษา ถ้าไม่ค้างคืน ขออนุญาต ผอ.สถานศึกษา โดยอ้างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ.2548 ข้อ 7, ถ้าค้างคืน ไม่ใช่อำนาจของ ผอ.สถานศึกษาโดยตรง ฉะนั้น ผอ.สถานศึกษาอนุญาตโดยอ้างคำสั่งมอบอำนาจที่ 489/2551 ข้อ 16
             - ส่วนของบุคลากร กศน. ขออนุญาตตามคำสั่งมอบอำนาจ

         5. คืนวันที่ 23 ส.ค.59 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า  เปิดอาชีพ เขียนแผนไว้มีคนสมัครเรียนจำนวนหนึ่ง พอเปิดจริงกลับมีผู้เรียนเกินนั้น จนท.การเงินของอำเภอบอกให้ครู กศน.ตำบล ทำบันทึกถึง ผอ. ว่ามีผู้เรียนเพิ่มเพราะอะไร ... อยากถามว่า มันต้องบันทึกหรือมีระเบียบอะไรบังคับรึเปล่า เรื่องเบิกเงินตีกลับจนจะเบิกไม่ทันเวลา

             เรื่องนี้   ไม่มีระเบียบบังคับ อยู่ที่นโยบาย ผอ. ว่าจะให้บันทึกหรือไม่ก็ได้
             การมีผู้สมัครเรียนมากขึ้น ( สมัครภายในเวลาที่จะมีเวลาเรียนครบตามเกณฑ์ที่สามารถผ่านการประเมินได้ ) แต่ยังเบิกเงินตามโครงการเดิม ก็อาจแค่แก้ไขข้อมูลผู้เรียนเท่านั้น ( แก้ไขข้อมูลสถิติผู้เรียนที่ขอเปิดกลุ่ม ไม่ต้องแก้แผนงาน/โครงการ )  แต่ถ้าจะเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ต้องขอความเห็นชอบต่อผู้อนุมัติโครงการเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงการ

         6. วันที่ 26 ส.ค.59 วัชลี ฟักทับทิม ถามในอินบ๊อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า  พนักงานราชการที่จะเกษียณเดือน ต.ค.นี้ ต้องประเมินหรือป่าว

             ผมตอบว่า   ไม่ต้องประเมินฯ

         7. วันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค.59 มี ผอ.กศน.อำเภอ ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า  การเบิกจ่ายค่าคุมสอบ จากงบอุดหนุนรายหัว ครอบคลุมการสอบกลางภาคไม๊ สามารถดำเนินการสอบกลางภาคในลักษณะเดียวกับปลายภาค ได้หรือไม่

             ผมตอบทันทีที่เห็นคำถาม ว่า  เบิกจ่ายไม่ได้
             หลังจากตอบไปแล้ว เพื่อความมั่นใจชัดเจนผมได้ค้นหาระเบียบ/หนังสือแจ้ง  ปรากฏว่าในระเบียบ/หนังสือแจ้งไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเบิกจ่ายค่าดำเนินการสอบ ได้เฉพาะการสอบปลายภาค
             วันที่ 29 ส.ค.59 ผมจึงเรียนถามเรื่องนี้กับท่านหัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายใน กศน.  ท่านตอบว่า เบิกจ่ายไม่ได้ ไม่มีระเบียบให้เบิกจ่ายค่าดำเนินการสอบกลางภาค   ผมบอกว่าในระเบียบ/หนังสือแจ้งไม่ได้ระบุชัดเจน  ท่านบอกว่า ถ้าระเบียบ/หนังสือแจ้งไม่ชัดเจน ต่อไปก็จะระบุให้ชัดเจนว่า เบิกจ่ายค่าดำเนินการสอบได้เฉพาะการสอบปลายภาค