วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

1.ผอ.กศน.จังหวัดไม่ให้ย้าย, 2.ผอ.นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว, 3.พ้นสภาพ-เทียบโอน, 4.นายทะเบียนไม่ยอมให้ใช้รูปพระติดใบ รบ., 5.เข็มเชิดชูเกียรติ กศน. ติดไม่เหมือนกันสักที่, 6.พนักงานราชการเกษียณ จะได้อะไร, 7.การปรับเงินเดือนให้ได้ตามวุฒิ ป.โท


สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้  7  เรื่อง ดังนี้

         1. เช้าวันปิยมหาราช 23 ต.ค.61 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า  ฉันเขียนขอย้าย แต่ ผอ.กศน.จังหวัดไม่ให้ย้าย.. ไม่ได้ย้ายไปไหนไกล ย้ายข้ามตำบลในอำเภอเดียวกัน ท่านให้เหตุผลว่า ทำงานในพื้นที่ยังไม่ดีพอ แต่คะแนนประเมินฉัน อยู่ 85-90 ตลอดทุกครั้ง

             ผมตอบว่า   ก็เป็นอำนาจขั้นต้นของ ผอ.กศน.จังหวัด  ต้องหารือกับท่าน  การพิจารณาย้ายไม่ได้ดูที่คะแนนประเมินอย่างเดียว ถ้าท่านจะให้กรรมการพิจารณา ก็ยังต้องผ่านกรรมการอีก

         2. เช้าวันเดียวกัน ( 23 ต.ค.) มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า  ถ้ามีข้อมูลหรือทราบว่ามี ผอ.นำรถหลวงไปใช้เป็นการส่วนตัวขับกลับไปบ้านที่ทำงาน สามารถร้องเรียนได้ที่ไหน และจะทราบผลหรือมีผลนานไหมที่จะถูกตรวจสอบ ถ้าผิดจริงจะมีการหลุดคดีมีคนในเอื้อไหม

             ผมตอบว่า
             - ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนาจริง ๆ ก็มีโอกาสหลุดมาก ๆ
             - คนในมักจะเอื้อกัน ผู้บริหารก็จะเอื้อผู้บริหารด้วยกัน ช่วยกันโดยไม่สนใจความถูกต้องหรือชาติบ้านเมืองส่วนรวม
             - การตรวจสอบพิจารณา ใช้เวลานานมาก
             - หน่วยงานที่รับร้องเรียนมีมาก เช่น รัฐบาล ต้นสังกัด ปปช. ปปง. สตง. ฯลฯ

         3. วันที่ 30 ต.ค.61 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า  ฉันเป็นนักศึกษา กศน.อ.เมืองสมุทรปราการ เรียนเทอมแรกในเทอม 2/58 และเรียนครบหน่วยกิตในเทอม 1/60 สอบทุกอย่างผ่านหมด แต่ กพช ไม่ครบ 200 ชั่วโมง จึงไม่ได้ยื่นคำร้องขอจบ
             แต่ปรากฏว่า เทอมนี้ทางเขตฉันเขาแจ้งว่า รหัสนักศึกษาหมดอายุ ต้องลาออก แล้วเทียบโอนเรียนใหม่ ซึ่งเขตที่ฉันเรียน มีนักศึกษาโดนบังคับลาออกเยอะมาก ครูให้ฉันยื่นคำร้องขอลาออกและให้สมัครเรียนใหม่ เทียบโอน 75% และต้องเข้าชั้นเรียนเพิ่มอีก ครู กศน.ตำบลฉันไม่ให้คำปรึกษาที่ชัดเจน อ้างว่ายุ่ง ให้ฉันคิดเอง เอาเอกสารให้ฉันคืน และจะมาว่าครูไม่ได้นะ
             ฉันควรจะทำอย่างไรดี ควรร้องเรียนไปยัง ผอ กศน จังหวัดดีหรือเปล่า ครูให้ฉันยื่นใบคำร้องขอลาออกแล้วด้วย ช่วยฉันและเพื่อนๆด้วย

             ผมตอบว่า   ควรหาเบอร์โทร. ผอ.กศน.อำเภอ แล้วรีบโทร.ไปคุยก่อนสายเกินไป บอก ผอ.ว่า ผมบอกว่า "เรียนเทอมสุดท้าย 1/60 ยังไม่พ้นสภาพ"

             ครั้งแรกผมคิดจะไม่นำเรื่องนี้ขึ้นเฟซบุ๊ก แต่ก็มีประเด็นหนึ่งที่อยากบอก เพราะยังเข้าใจกันผิด คือ ที่ว่า เทียบโอนได้ 75 % นั้น หมายถึง การ “เทียบโอน” จาก “หลักสูตรอื่น”
             แต่ ถ้าเป็นหลักสูตรเดียวกัน เช่นหลักสูตร กศน.51 เหมือนกัน จะ “โอน” ได้ทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในใบ รบ.ที่ลาออกมา รวมทั้ง กพช.ก็โอนได้ด้วย
             เช่น ตอนเป็นทหารเกณฑ์ เรียนหลักสูตร กศน.51 อยู่ในค่ายทหารที่จังหวัดหนึ่ง เมื่อครบกำหนดการเป็นทหารเกณฑ์แล้วแต่ยังเรียนไม่จบ ก็ลาออกมา แล้วกลับมาสมัครเรียนต่อที่จังหวัดภูมิลำเนา ในหลักสูตร กศน.51 เหมือนกัน  ลักษณะนี้จะโอนได้ทั้งหมดที่ปรากฏในใบ รบ.ที่ลาออกมา ซึ่งแม้แต่การลาออกและสมัครใหม่ในสถานศึกษาเดิมนี้ ก็โอนได้หมดในลักษณะเดียวกัน
             เพียงแต่ว่า ผลการเรียนวิชาที่หมดอายุไปก่อนวันลาออก จะไม่มีปรากฏในใบ รบ.ที่ลาออก

         4. เช้าวันที่ 1 พ.ย.61 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า  พระเรียนจบ ม.ปลาย กับ กศน. ออก รบ. แล้วติดรูปที่เป็น พระ ใช้คำนำหน้า ว่า พระนภา จันทร์ถา (ตามชื่อ) ได้มั้ย มีระเรียบมั้ย นายทะเบียน ไม่เช็นให้ ให้หาระเบียบมา
             ถ้าไม่ออกวุฒิให้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะรับสมัครพระมาเรียนทำไม ขอคำชี้แนะด้วย

             ผมตอบว่า   รูปต้องสัมพันธ์กับคำนำหน้าชื่อ และต้องเป็นรูปปัจจุบัน ถ้าปัจจุบันเป็นพระ รูปก็เป็นพระ คำนำหน้าก็เป็นพระ
             ให้ใช้คำว่า พระภิกษุ นะ ไม่ใช่พระเฉย ๆ คำว่าพระเฉย ๆ มีความหมายอื่น
             ผู้ถาม ถามต่อ ว่า ปัจจุบัน เป็นพระ ใช้รูปพระ ปกติก็เคยออกให้ นายทะเบียนคนปัจจุบันถามหาระเบียบ ต้องเป็นนาย ฉันก็ตอบว่า ท่านเป็นพระ
                   ฉันจะเอาระเบียบมาจากไหน
             ผมตอบว่า  ช่วยเสิร์ชหาคำตอบเดิม ๆ เอาเองบ้าง ผมไม่ค่อยว่างที่จะตอบเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ
                       เช่นดูในข้อ 6 ที่  http://nfeph.blogspot.com/2014/12/nfe-mis.html
                       ระเบียบอยู่ในคู่มือการดำเนินงานหลักสูตร 2551 (ฉบับปรับปรุง 2555) หน้า 139 ข้อ 4

         5. คืนวันที่ 5 พ.ย.61 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า  ขอถามส่วนตัวหน่อย การประดับเหรียญเชิดชูเกียรติ ทองแดง เงิน ทอง ติดตรงไหนของชุดกากี แต่ละคนเห็นติดไม่เหมือนกันสักที่

             ผมตอบว่า   ปกติองค์กรที่ออกเข็มเชิดชูเกียรติต่าง ๆ จะออกระเบียบ/ประกาศ/ข้อบังคับ ประกอบเข็มนั้น โดยบอกด้วยว่าประดับอย่างไรตรงไหน  แต่สำนักงาน กศน.ยังไม่ได้ออกระเบียบ/ประกาศ/ข้อบังคับประกอบเข็มเชิดชูเกียรตินี้ แต่คุณฝน ณัฐมน ปชส.กศน. เคยบอกผมตั้งแต่ตอนเธออยู่ กป.กศน.ว่า ประดับได้
             เข็มเชิดชูเกียรติทั่วไปจะประดับที่กระเป๋าเสื้อด้านขวา แม้รูปทรงเข็มเชิดชูเกียรติของเราจะไม่เหมาะที่จะประดับกระเป๋าเสื้อก็ตาม ( ปกติรูปทรงเข็มเชิดชูเกียรติจะเป็นแนวตั้ง ยาว ๆ )
             ถ้าจะประดับกับเครื่องแบบปกติขาว ( ขาวทั้งชุด ) ก็ประดับได้ ผู้หญิงไม่มีกระเป๋าเสื้อก็ประดับที่อกเสื้อด้านขวา
             ถ้าที่กระเป๋าเสื้อด้านขวาประดับเข็มอื่นแล้ว ก็ประดับที่เหนือกระเป๋าเสื้อด้านขวา ( เหนือป้ายชื่อ เหนือปีกโดดร่ม )
             แต่ถ้ามีมากกว่า 1 เข็ม โดยเข็มมีศักดิ์ไม่เท่ากัน เช่นครู กศน.ได้ทั้งเข็มเชิดชูเกียรติและเข็มวิทยพัฒน์ ประดับเข็มที่มีศักดิ์สูงกว่าเข็มเดียวก็พอ โดยเข็มเชิดชูเกียรติมีศักดิ์สูงกว่า เพราะเข็มวิทยพัฒน์แสดงว่าผ่านการอบรมพัฒนาเท่านั้น แต่เข็มเชิดชูเกียรติแสดงว่ารับราชการมาเป็นเวลานาน ซึ่งย่อมจะต้องเคยผ่านการอบรมพัฒนามาด้วยแล้ว   ถ้าเคยได้ทั้งเข็มทองแดง เข็มเงิน เข็มทอง ก็ประดับเฉพาะเข็มทอง





         6. วันที่ 8 พ.ย.61 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า  ฉันเป็นพนักงานราช ครู กศน.ตำบล หากฉันเกษียณจะได้ค่าตอบแทนอะไรบ้าง

             ผมตอบว่า   ข้าราชการ+ลูกจ้างประจำ ตอนออกก็มีแต่บำเหน็จบำนาญตามหลักเกณฑ์ ส่วนพนักงานราชการทุกกระทรวง ตอนออก ไม่มีบำเหน็จบำนาญจากต้นสังกัด เพราะ “ได้รับอยู่ทุกเดือนแล้ว” โดย
             พนักงานราชการบรรจุใหม่ จะได้รับเงินเดือนมากกว่าข้าราชการพลเรือนบรรจุใหม่ที่วุฒิเดียวกัน อยู่ 20 % เช่นปัจจุบันพนักงานราชการบรรจุใหม่ได้ 18,000 บาท แต่ข้าราชการพลเรือนวุฒิเดียวกัน ( ป.ตรี หลักสูตร 4 ปี ) ได้ 15,000 บาท
             ( บรรจุใหม่ได้มากกว่า 20 % พอดี มาตลอดตั้งแต่ประเทศไทยมี พรก.
                ตอน ขรก.ได้ 7,940 บาท พรก.บรรจุใหม่ได้ 9,530 บาท ไม่รวมค่าครองชีพ,
                เมื่อปรับเงินเดือนให้ ขรก.ได้ 9,140 บาท พรก.ได้ 10,970,
                1 ม.ค.55 ขรก.บรรจุใหม่ได้ 11,680 พรก.ได้ 14,020 )

             ที่พนักงานราชการได้เกินข้าราชการในแต่ละเดือน 20 % นี้ แบ่งเป็น
             - ค่าประกันสังคมส่วนที่หักจากลูกจ้าง 5 %
             - ค่าสวัสดิการต่าง ๆ เช่น ค่าการศึกษาบุตร ค่ารักษาพยาบาล ค่าตรวจสุขภาพ 5 %
             - บำเหน็จบำนาญ 10 %
             เงินเหล่านี้ พนักงานราชการได้ไปแล้ว ได้ไปโดยอัตโนมัติทุกเดือนแล้ว ส่วนข้าราชการต้องทำเรื่องเบิกเป็นครั้ง ๆ โดย ขรก.ได้บำเหน็จบำนาญตอนออก
             เช่นบรรจุใหม่ พรก.ได้เกิน ขรก.เดือนละ 3,000 บาท ( เงินเดือนข้าราชการ 15,000 เงินเดือนพนักงานราชการ 18,000 ซึ่งมากกว่า 3,000 ) รวมเป็นมากกว่าปีละ 36,000 บาท ถ้า ทำงาน 30 ปีเกษียณก็เท่ากับรวมส่วนเกินนี้ได้ประมาณ 1 ล้าน 8 หมื่นบาท เฉลี่ยเป็นบำเหน็จบำนาญประมาณ 540,000 บาท  เป็นค่าสวัสดิการต่าง ๆ 270,000 บาท  เป็นค่าลูกจ้างสมทบประกันสังคม 270,000 บาท )
             พนักงานราชการจึงรับบำเหน็จบำนาญจากต้นสังกัดเพิ่มอีกไม่ได้ นอกจากไปรับทาง ประกันสังคม โดย ถ้า พนักงานราชการคนใดทำประกันสังคมแบบส่งเงินสมทบเข้ากองทุนชราภาพ พนักงานราชการก็ได้บำเหน็จบำนาญตามเกณฑ์ ( ดูเกณฑ์ในข้อ 5 ที่ http://nfeph.blogspot.com/2013/11/10-mpbs.html )

         7. คืนวันที่ 8 พ.ย.61 คุณสหัส เลิศไกร แจ้งในกลุ่มไลน์สแควร์ “กศน.” ( กลุ่มไลน์นี้รับสมาชิกเฉพาะบุคลากร กศน. ตอนนี้มีสมาชิกพันกว่าคน ) ว่า  “ หนังสือ ( เรื่อง กว่าจะได้นั่งบัลลังก์ศาล ) ได้รับจากมือผู้เขียนเมื่อปี58เป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งที่เคยอ่านมา อดีตเคยเป็นนักศึกษา กศน.เป็นผู้เขียน ตอนนี้เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล อยากส่งต่อให้ท่านอื่นได้อ่านด้วย มอบให้ อ.เอกชัยตั้งคำถามครับ แล้วจะส่งให้นะครับ ”

             ผมจึงตั้งคำถามให้สมาชิกกลุ่มตอบ ( ใครตอบถูกคนแรกจะได้รับหนังสือ )
             คำถามคือ  “ นายสหัส เลิศไกร เดิมเป็นครูอาสาฯ กศน.อ.ฉวาง นครศรีธรรมราช ต่อมาสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู กศน.อ.ควนขนุน พัทลุง
             ต่อมาเรียนจบ ป.โท และยื่นขอปรับเงินเดือนให้ได้รับตามวุฒิ ป.โท ตอนที่ยื่น นายสหัส ดำรงตำแหน่งครู คศ.1 เงินเดือน 19,920 บาท
             ถามว่า นายสหัส จะได้รับการปรับเงินเดือนให้ได้ตามวุฒิ ป.โท หรือไม่ เพราะอะไร ? ”

             เฉลยคำตอบ
             “ จะไม่ได้รับการปรับเงินเดือนให้ได้ตามวุฒิ ป.โท เพราะ ตอนขอปรับนั้นดำรงตำแหน่งครู คศ.1 เงินเดือน 19,920 บาท ซึ่งมากกว่าอัตราเงินเดือนวุฒิ ป.โท ที่ ก.ค.ศ.กำหนดแล้ว
             ( ก.ค.ศ.กำหนดอัตราเงินเดือน “วุฒิ ป.โททั่วไปที่ ก.ค.ศ.รับรอง” ในตำแหน่งครูผู้ช่วย = 17,690 บาท, และในตำแหน่งครู คศ.1 = 17,910 บาท )
             การจะปรับวุฒิได้ นอกจากเงินเดือนยังต่ำกว่าวุฒินั้นแล้ว สำหรับ ขรก.ครูยังต้องเรียนจบหลังบรรจุ โดยถ้าลาศึกษาต่อหลังบรรจุและหลังวันที่ 8 ธ.ค.59 ต้องศึกษาต่อให้ตรงสาขาด้วย
             อย่างไรก็ตาม แม้ปรับวุฒิไม่ได้ ก็ให้ยื่นเรื่อง ขอเพิ่มวุฒิการศึกษาในทะเบียนประวัติ ก.พ.7 แทนการยื่นเรื่องขอปรับเงินเดือนให้ได้ตามวุฒิ
             อนึ่ง เกณฑ์การขอมีวิทยฐานะชำนาญการปัจจุบัน ว 21/60 วุฒิการศึกษาไม่ได้ช่วยให้ขอมีวิทยฐานะได้เร็วขึ้นแล้ว”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย