สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. จากค่ำถึงดึกวันที่ 16 ต.ค.60 มีผู้ถามผมเรื่องการติดเหรียญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เช่น
1. จากค่ำถึงดึกวันที่ 16 ต.ค.60 มีผู้ถามผมเรื่องการติดเหรียญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เช่น
- นายอุดมพร
สารีกิจ ครูอาสาฯ ถามทางไลน์ ว่า “ครูครับ ติดเครื่องราช ชุดเครื่องแบบเต็มยศ 3 เหรียญเรียงตามลำดับ
จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย+เบญจมาภรณ์ช้างเผือก+เหรียญที่ระลึกในหลวงรัชกาลที่ 9
ได้ไหมครับ หรือครูเอกชัยจะแนะนำให้ติดเหรียญจตุรถาภรมงกุฎไทยอย่างเดียว
ขอคำแนะนำเพื่อความถูกต้องและความเหมาะสมด้วย
ผมตอบว่า ติดทั้ง 3 เหรียญเรียงตามนั้นถูกแล้ว
- เหรียญเครื่องราชฯ ( เช่น จ.ม., บ.ช.) ให้ประดับเพียง 2 เหรียญ คือเหรียญสูงสุดของช้างเผือก กับ สูงสุดของมงกุฏไทย
ผมตอบว่า ติดทั้ง 3 เหรียญเรียงตามนั้นถูกแล้ว
- เหรียญเครื่องราชฯ ( เช่น จ.ม., บ.ช.) ให้ประดับเพียง 2 เหรียญ คือเหรียญสูงสุดของช้างเผือก กับ สูงสุดของมงกุฏไทย
-
เหรียญที่ระลึก ประดับได้ทุกเหรียญที่ออกหลังเราเกิด
( ประดับเหรียญที่ระลึกได้มากกว่านี้ )
ผู้ชายยิ่งประดับมากยิ่งดูดี
แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาประดับกันแค่ 2 เหรียญ ถ้าประดับมากจะดูเกะกะเทอะทะ เพราะสายแพรเหรียญของผู้หญิงจะผูกเป็นปีกแมลงปอ ประดับชิดกันยาก
ผู้ชายยิ่งประดับมากยิ่งดูดี
แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาประดับกันแค่ 2 เหรียญ ถ้าประดับมากจะดูเกะกะเทอะทะ เพราะสายแพรเหรียญของผู้หญิงจะผูกเป็นปีกแมลงปอ ประดับชิดกันยาก
การประดับเหรียญจริงนี้
ประดับเฉพาะเครื่องแบบพิธีการครึ่งยศ-เต็มยศ คือเสื้อขาวกางเกงกระโปรงดำ นะ
ถ้าเครื่องแบบพิธีการปกติ ขาวทั้งชุด จะประดับแพรแถบย่อแทนเหรียญ
- ครูอ้อม
กศน.ดอยหล่อ, พงษ์ธวัช ตั้งฑีฆะรักษ์
ถามต่อท้ายโพสต์ผมในเฟซบุ๊ก ว่า “พนักงานราชการ ที่ได้รับ
จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ใช้แถบแบบไหนค่ะ รูปตามโพสต์ของข้าราชการหรือ พรก. ค่ะ”,
“ได้ บช. มาก่อน ขณะนี้ได้ ตม. แพรแถบแบบไหนถูกต้อง”
ผมตอบว่า ทั้งเหรียญจริง และแพรแถบย่อ นั้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานราชการหรือลูกจ้างประจำหรือข้าราชการ ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯเดียวกันจะประดับได้เหมือนกันหมด แต่ต่างกันที่เหรียญที่ระลึกตามอายุ
ในแผงแพรแถบย่อนั้น จะเป็นแพรแถบย่อของ "เหรียญเครื่องราชฯ" อยู่ไม่เกิน 2 เหรียญ ตรงริมซ้ายของแท่งบน ส่วนที่เหลือเป็นแพรแถบย่อของ "เหรียญที่ระลึก" ซึ่งทุกคนประดับได้ทุกเหรียญที่ออกหลังตนเกิด ( ไม่ต้องขอพระราชทานเหรียญที่ระลึก )
คนที่อายุมากจึงประดับแผงแพรแถบย่อได้แผงใหญ่มีหลายแท่ง ( 1 แท่งแนวนอน แทน 3 เหรียญ )
ผมตอบว่า ทั้งเหรียญจริง และแพรแถบย่อ นั้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานราชการหรือลูกจ้างประจำหรือข้าราชการ ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯเดียวกันจะประดับได้เหมือนกันหมด แต่ต่างกันที่เหรียญที่ระลึกตามอายุ
ในแผงแพรแถบย่อนั้น จะเป็นแพรแถบย่อของ "เหรียญเครื่องราชฯ" อยู่ไม่เกิน 2 เหรียญ ตรงริมซ้ายของแท่งบน ส่วนที่เหลือเป็นแพรแถบย่อของ "เหรียญที่ระลึก" ซึ่งทุกคนประดับได้ทุกเหรียญที่ออกหลังตนเกิด ( ไม่ต้องขอพระราชทานเหรียญที่ระลึก )
คนที่อายุมากจึงประดับแผงแพรแถบย่อได้แผงใหญ่มีหลายแท่ง ( 1 แท่งแนวนอน แทน 3 เหรียญ )
ดูข้อมูลว่า
เหรียญที่ระลึกใดทรงโปรดเกล้าฯในปี พ.ศ.ใด ได้ในข้อ 6 ที่ https://www.gotoknow.org/posts/310038 (
ปัจจุบันออกเหรียญที่ระลึกมากกว่าข้อมูลนี้ )
2. เย็นวันที่ 9 ต.ค.60 Thanutpon Maneeruengsin ถามผมในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า เรียน กศน จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วเค้าไม่ผ่อนผันทหารให้ บอกว่าให้ไปติดต่อสัสดีเอง แล้วแบบนี้สรุป กศน สามารถผ่อนผันทหารได้ใช่ไหม
2. เย็นวันที่ 9 ต.ค.60 Thanutpon Maneeruengsin ถามผมในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า เรียน กศน จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วเค้าไม่ผ่อนผันทหารให้ บอกว่าให้ไปติดต่อสัสดีเอง แล้วแบบนี้สรุป กศน สามารถผ่อนผันทหารได้ใช่ไหม
ผมตอบว่า ตามกฎกระทรวง
ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ฉบับที่ 73 ( พ.ศ.2536 )
กำหนดบุคคลผู้จะได้รับการผ่อนผันฯ ในข้อ 2 (ง) ว่า “นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
... ให้ได้รับการผ่อนผันจนสำเร็จระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งนี้ไม่เกินอายุ 22
ปีบริบูรณ์”
สถานศึกษา กศน. ควรสำรวจนักศึกษาระดับ ม.ปลาย อายุ 20-22 ปี ที่ยังไม่เคยเข้ารับการ "ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ" และประสงค์จะขอผ่อนผันการตรวจเลือก ( ถ้าเกิดในปี พ.ศ.2538-2540 ยื่นขอผ่อนผันต่อสถานศึกษาในช่วงปลายปี พ.ศ.2560 ) ให้ทำเรื่องขอผ่อนผัน โดยให้ กศน.อำเภอ/เขต รวบรวมส่ง สนง.กศน.จังหวัด/กทม. ภายในเดือนธันวาคม และ สนง.กศน.จังหวัด/กทม. ส่งผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของ นศ.รายนั้น ๆ ภายในเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมอบอำนาจให้ ผอ.สนง.กศน.จ./กทม. เป็นผู้ดำเนินการ ตามคำสั่งที่ 270/2551 ลงวันที่ 5 มี.ค.2551 ข้อ 10 กศน.อำเภอ/เขต จึงต้องรวบรวมเรื่องส่งไปที่ สนง.กศน.จังหวัด/กทม.
สถานศึกษา กศน. ควรสำรวจนักศึกษาระดับ ม.ปลาย อายุ 20-22 ปี ที่ยังไม่เคยเข้ารับการ "ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ" และประสงค์จะขอผ่อนผันการตรวจเลือก ( ถ้าเกิดในปี พ.ศ.2538-2540 ยื่นขอผ่อนผันต่อสถานศึกษาในช่วงปลายปี พ.ศ.2560 ) ให้ทำเรื่องขอผ่อนผัน โดยให้ กศน.อำเภอ/เขต รวบรวมส่ง สนง.กศน.จังหวัด/กทม. ภายในเดือนธันวาคม และ สนง.กศน.จังหวัด/กทม. ส่งผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของ นศ.รายนั้น ๆ ภายในเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมอบอำนาจให้ ผอ.สนง.กศน.จ./กทม. เป็นผู้ดำเนินการ ตามคำสั่งที่ 270/2551 ลงวันที่ 5 มี.ค.2551 ข้อ 10 กศน.อำเภอ/เขต จึงต้องรวบรวมเรื่องส่งไปที่ สนง.กศน.จังหวัด/กทม.
เอกสารที่ต้องใช้ คือ
1) ให้นักศึกษาเขียนคำร้องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ( ดูตัวอย่างแบบคำร้องได้ที่ https://www.dropbox.com/s/grmm324qgywpmjr/requestSoldier.doc?dl=1 )
2) ใบสำคัญทหารกองเกิน (แบบ สด.9) พร้อมสำเนาหน้า-หลัง จำนวน 2 ฉบับ ยื่นพร้อมให้ตรวจสอบกับฉบับจริง
3) หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) พร้อมสำเนา หน้า-หลัง จำนวน 2 ฉบับ
4) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับ
5) หลักฐานสำคัญกรณีเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) พร้อมสำเนา จำนวน 2 ฉบับ
6) หนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา ฉบับจริง ( กศน.อำเภอเป็นผู้ออกให้ โดยนักศึกษาส่งรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป )
3. มีผู้ถามผมว่า ครูอาสา ที่ใช้วุฒิ ปวส. มีสิทธิรับเครื่องราชมั๊ย ถ้าทำงานมาตั้งแต่ต้นปี 2551
1) ให้นักศึกษาเขียนคำร้องขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ( ดูตัวอย่างแบบคำร้องได้ที่ https://www.dropbox.com/s/grmm324qgywpmjr/requestSoldier.doc?dl=1 )
2) ใบสำคัญทหารกองเกิน (แบบ สด.9) พร้อมสำเนาหน้า-หลัง จำนวน 2 ฉบับ ยื่นพร้อมให้ตรวจสอบกับฉบับจริง
3) หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) พร้อมสำเนา หน้า-หลัง จำนวน 2 ฉบับ
4) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับ
5) หลักฐานสำคัญกรณีเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) พร้อมสำเนา จำนวน 2 ฉบับ
6) หนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา ฉบับจริง ( กศน.อำเภอเป็นผู้ออกให้ โดยนักศึกษาส่งรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป )
3. มีผู้ถามผมว่า ครูอาสา ที่ใช้วุฒิ ปวส. มีสิทธิรับเครื่องราชมั๊ย ถ้าทำงานมาตั้งแต่ต้นปี 2551
ผมตอบว่า มีสิทธิ เป็นไปตาม บัญชี 32
ของประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 33 พ.ศ.2549
โดยพนักงานราชการวุฒิ ปวส. ดูในตารางบัญชี 32 ลำดับที่ 1 พนักงานราชการกลุ่มงานบริการ ปฏิบัติงานติดต่อกัน 5 ปี ขอพระราชทานเครื่องราชฯ บ.ม. ( ตามรายละเอียดในภาพ )
โดยพนักงานราชการวุฒิ ปวส. ดูในตารางบัญชี 32 ลำดับที่ 1 พนักงานราชการกลุ่มงานบริการ ปฏิบัติงานติดต่อกัน 5 ปี ขอพระราชทานเครื่องราชฯ บ.ม. ( ตามรายละเอียดในภาพ )
4.
อยากทราบว่า ผู้ที่ได้รับเครื่องราชปี 60 เขาพิจารณาจากอะไร ถามไปที่จังหวัด จ.
บอกว่าไม่ได้ทำเรื่องขอไป สำนักทำเรื่องขอให้หรือ
แล้วทำไมบางคนที่ทำมานานยี่สิบกว่าปีสามสิบปีไม่ได้ แต่ทำไมที่ทำมาสิบกว่าปีได้
แถมเคยได้มาแล้วระดับหนึ่ง บางอำเภอได้หมดบางอำเภอก็ได้ไม่หมด
นักวิชาการของจังหวัด บางคนก็ได้บางคนก็ไม่ได้ คนเก่าหลายปีไม่ได้แต่คนใหม่ได้ งง
รบกวนอธิบายเพื่อเป็นความรู้
ผมตอบว่า ให้จังหวัดทำเรื่องขอไปทุกปี ใช้หลักเกณฑ์เดียวกันทุกแห่ง
แต่บางจังหวัดอาจตรวจสอบข้อมูลไม่ละเอียดรอบคอบ
( บางคนอาจจะได้แล้ว แต่ไม่รู้ตัว ตรวจสอบได้ที่ https://thanundon.soc.go.th/home/frmloginuser )
5. มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า การประเมินผลสอบในวิชาเลือก กรณี นศ.มีคะแนนเก็บกลางภาคอยู่ที่ 46 คะแนน สอบปลายภาคสมมุติมีข้อสอบ 40 ข้อเลยนะ ถ้า นศ. สอบได้ 6 ข้อ เท่ากับ 6 คะแนน เมื่อประเมินผลการเรียน นศ.คนนี้จะได้ เกรด 1 ไม่ใช่ 0 ถูกต้องมั้ย
( บางคนอาจจะได้แล้ว แต่ไม่รู้ตัว ตรวจสอบได้ที่ https://thanundon.soc.go.th/home/frmloginuser )
5. มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า การประเมินผลสอบในวิชาเลือก กรณี นศ.มีคะแนนเก็บกลางภาคอยู่ที่ 46 คะแนน สอบปลายภาคสมมุติมีข้อสอบ 40 ข้อเลยนะ ถ้า นศ. สอบได้ 6 ข้อ เท่ากับ 6 คะแนน เมื่อประเมินผลการเรียน นศ.คนนี้จะได้ เกรด 1 ไม่ใช่ 0 ถูกต้องมั้ย
ผมถามกลับ ว่า
1) วิชาเลือกบังคับ หรือวิชาเลือกเสรี
2) เรียนแบบพบกลุ่ม หรือแบบทางไกล
3) สถานศึกษากำหนดเกณฑ์คะแนนสอบปลายภาคของวิชาเลือกเสรีหรือไม่
( ผมไม่ว่างที่จะแช็ตซักถามโต้ตอบทีละประโยค ถามคนอื่นนะ )
6. บ่ายและเย็นวันที่ 5 ต.ค.60 มี 2 คน ( แต่สงสัยจะอยู่คนละฝ่าย ) ถามผมในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก โดยคนหนึ่งถามว่า “นักศึกษาเรียนครบหน่วยกิตแล้ว แต่สถานศึกษาไม่ยอมให้เด็กจบ อ้างว่าขาดวิชาเลือกบังคับอีก 6 หน่วยกิต สงสารเด็ก ตั้งใจเรียนแต่มาเจอเหตุผลแบบนี้ หากเขาฟ้องสถานศึกษาต้องโดนแน่ๆเพราะไม่เคยปรับปรุงหลักสูตร ไม่เคยประกาศเป็นระเบียบข้อบังคับ มีเพียงแจ้งในที่ประชุมให้ครูทราบ แบบนี้จะทำอย่างไรดี
ส่วนอีกคนหนึ่ง ถามว่า “กรณีที่ นักศึกษาลงทะเบียนเรียนครบตามเกณฑ์ แต่ว่าวิชาบังคับเลือก ลงไม่ครบ ถือว่าไม่จบตามเกณฑ์ใช่ไหม”
1) วิชาเลือกบังคับ หรือวิชาเลือกเสรี
2) เรียนแบบพบกลุ่ม หรือแบบทางไกล
3) สถานศึกษากำหนดเกณฑ์คะแนนสอบปลายภาคของวิชาเลือกเสรีหรือไม่
( ผมไม่ว่างที่จะแช็ตซักถามโต้ตอบทีละประโยค ถามคนอื่นนะ )
6. บ่ายและเย็นวันที่ 5 ต.ค.60 มี 2 คน ( แต่สงสัยจะอยู่คนละฝ่าย ) ถามผมในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก โดยคนหนึ่งถามว่า “นักศึกษาเรียนครบหน่วยกิตแล้ว แต่สถานศึกษาไม่ยอมให้เด็กจบ อ้างว่าขาดวิชาเลือกบังคับอีก 6 หน่วยกิต สงสารเด็ก ตั้งใจเรียนแต่มาเจอเหตุผลแบบนี้ หากเขาฟ้องสถานศึกษาต้องโดนแน่ๆเพราะไม่เคยปรับปรุงหลักสูตร ไม่เคยประกาศเป็นระเบียบข้อบังคับ มีเพียงแจ้งในที่ประชุมให้ครูทราบ แบบนี้จะทำอย่างไรดี
ส่วนอีกคนหนึ่ง ถามว่า “กรณีที่ นักศึกษาลงทะเบียนเรียนครบตามเกณฑ์ แต่ว่าวิชาบังคับเลือก ลงไม่ครบ ถือว่าไม่จบตามเกณฑ์ใช่ไหม”
เรื่องนี้ คุณกิตติพงษ์ กลุ่มพัฒนา กศน. บอกว่า เป็นนโยบายสำนักงาน กศน. ให้ นศ. รหัส
591...... เป็นต้นไป ต้องเรียนวิชาเลือกบังคับ 2 วิชา ( แต่ถ้า เทียบโอนได้วิชาเลือกครบหน่วยกิตแล้ว
ก็ไม่ต้องเรียนวิชาเลือกบังคับก็ได้ แต่ถ้าเทียบโอนแล้วยังเหลือวิชาเลือกที่ต้องเรียนอีกไม่น้อยว่า
4 หน่วยกิตในระดับประถม หรือ 6 หน่วยกิตในระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย
ก็ต้องเรียนวิชาเลือกบังคับ )
( โปรแกรม ITw รุ่น 19 ต.ค.60
จะยอมให้ผู้ที่เทียบโอนแล้วเหลือต้องเรียนวิชาเลือกอีกไม่ถึง 4-6 หน่วยกิต
สามารถจบได้โดยไม่ต้องเรียนวิชาเลือกบังคับ แต่ถ้าต้องเรียนวิชาเลือกไม่น้อยกว่า
4-6 หน่วยกิต ถ้าไม่เรียนวิชาเลือกบังคับก็ไม่ให้จบ
โปรแกรมรุ่นนี้ นอกจากแก้ไขเรื่องเทียบโอนวิชาเลือกแล้วเหลือไม่ถึง 4-6 หน่วยกิตไม่ต้องเรียนวิชาเลือกบังคับแล้ว ยังใสค่าขีดจำกัดล่างให้ถึงภาค 2/59 แล้วด้วย ดาวน์โหลดโปรแกรม ITw รุ่น 19 ต.ค.60 ได้ที่ http://bit.ly/2obJJNp )
โปรแกรมรุ่นนี้ นอกจากแก้ไขเรื่องเทียบโอนวิชาเลือกแล้วเหลือไม่ถึง 4-6 หน่วยกิตไม่ต้องเรียนวิชาเลือกบังคับแล้ว ยังใสค่าขีดจำกัดล่างให้ถึงภาค 2/59 แล้วด้วย ดาวน์โหลดโปรแกรม ITw รุ่น 19 ต.ค.60 ได้ที่ http://bit.ly/2obJJNp )
หลังจากผมตอบไปแล้ว ผู้ถามบอกว่า
“นโยบายกับกฎหมายมันคนละเรื่องเดียวกัน หลักสูตร กศน.'51 ระบุชัดเจนเรื่องจำนวนหน่วยกิตวิชาบังคับและวิชาเลือก และหากผู้เรียนฟ้องร้องคดีนี้ กศน.ผิดเต็มๆ เพราะไม่เคยปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา และไม่เคยทำประกาศแจ้งให้ประชาชนรับทราบอย่างเป็นทางการ ทางที่ดีเราน่าจะหาทางแก้ไขภายในองค์กรให้ชัดเจนก่อนที่จะเกิดคดีความขึ้น
หลักสูตร กศน.'51 เป็นหลักสูตรที่สามารถยืดหยุ่นได้ สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาให้เหมาะสม การที่เราจะมาบังคับให้เด็กจบหรือไม่จบตามนโยบายมันถูกต้องหรือไม่ หากถูกต้องก็ต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนและถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยความเป็นผู้น้อยก็คิดตามประสา แต่ก็ด้วยความหวังดีต่อองค์กรอย่างแท้จริง อยากทำสิ่งที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ”
7. วันที่ 11 ต.ค.60 ผอ. ประวิทย์ กองสุดใจ ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า การกรอกใบประกาศนียบัตรเทียบระดับ ช่องที่สังกัด เป็น กศน.จังหวัด หรือ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
“นโยบายกับกฎหมายมันคนละเรื่องเดียวกัน หลักสูตร กศน.'51 ระบุชัดเจนเรื่องจำนวนหน่วยกิตวิชาบังคับและวิชาเลือก และหากผู้เรียนฟ้องร้องคดีนี้ กศน.ผิดเต็มๆ เพราะไม่เคยปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา และไม่เคยทำประกาศแจ้งให้ประชาชนรับทราบอย่างเป็นทางการ ทางที่ดีเราน่าจะหาทางแก้ไขภายในองค์กรให้ชัดเจนก่อนที่จะเกิดคดีความขึ้น
หลักสูตร กศน.'51 เป็นหลักสูตรที่สามารถยืดหยุ่นได้ สถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาให้เหมาะสม การที่เราจะมาบังคับให้เด็กจบหรือไม่จบตามนโยบายมันถูกต้องหรือไม่ หากถูกต้องก็ต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนและถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยความเป็นผู้น้อยก็คิดตามประสา แต่ก็ด้วยความหวังดีต่อองค์กรอย่างแท้จริง อยากทำสิ่งที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ”
7. วันที่ 11 ต.ค.60 ผอ. ประวิทย์ กองสุดใจ ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า การกรอกใบประกาศนียบัตรเทียบระดับ ช่องที่สังกัด เป็น กศน.จังหวัด หรือ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ผมตอบว่า ตามคู่มือการดำเนินงานเทียบระดับการศึกษา
ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2559 หน้า 40 กำหนดในข้อ 2.2.8 ว่า
“สังกัด ให้กรอกชื่อหน่วยงานที่สถานศึกษาสังกัด เช่น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร”
( ดาวน์โหลดคู่มือเล่มนี้ ได้ที่ https://www.dropbox.com/s/tzgrwkyven6m08x/manualTeab59.pdf?dl=1 )
“สังกัด ให้กรอกชื่อหน่วยงานที่สถานศึกษาสังกัด เช่น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร”
( ดาวน์โหลดคู่มือเล่มนี้ ได้ที่ https://www.dropbox.com/s/tzgrwkyven6m08x/manualTeab59.pdf?dl=1 )
แปลก ๆ นะ ไม่รู้ใครกำหนดแบบนี้
ปกติคำว่าสังกัด คือระดับกรม เช่นประกาศนียบัตรหลักสูตร กศน.ขั้นพื้นฐาน
ก็ลงสังกัดว่า “สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย