สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. วันที่ 1 ธ.ค.60 มี ผอ.กศน.เขต ถามผมทางไลน์ ว่า เทียบระดับ คนที่ไม่มีสัญชาติไทยไม่สามารถเรียนได้ใช่ไหม พอดีตรวจสอบแล้ว มีเรียน 1 คน เลขบัตรประจำตัวขึ้นด้วยเลข 8 แล้วหนังสือสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนที่ ศธ 0210.03/6217 ลว. 6 พ.ย. 49 ที่ให้สถานศึกษาสามารถรับสมัครและออกหลักฐานการศึกษาให้เด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยได้ ฉบับนี้ ยังมีผลอยู่หรือไม่
1. วันที่ 1 ธ.ค.60 มี ผอ.กศน.เขต ถามผมทางไลน์ ว่า เทียบระดับ คนที่ไม่มีสัญชาติไทยไม่สามารถเรียนได้ใช่ไหม พอดีตรวจสอบแล้ว มีเรียน 1 คน เลขบัตรประจำตัวขึ้นด้วยเลข 8 แล้วหนังสือสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนที่ ศธ 0210.03/6217 ลว. 6 พ.ย. 49 ที่ให้สถานศึกษาสามารถรับสมัครและออกหลักฐานการศึกษาให้เด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยได้ ฉบับนี้ ยังมีผลอยู่หรือไม่
ผมตอบว่า
หนังสือฉบับที่ให้รับสมัครและออกหลักฐานการศึกษาแก่ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยได้
ยังมีผลอยู่ แต่หนังสือฉบับนี้เป็นเรื่อง "การศึกษา (การเรียน)"
แต่ "การเทียบระดับ" ไม่ใช่การเรียน การเทียบระดับเป็นการประเมินเพื่อยอมรับระดับความรู้ที่เขามีความรู้อยู่แล้ว
ตามคู่มือการดำเนินงานเทียบระดับการศึกษา ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2559 ( ดาวน์โหลดได้ที่ https://www.dropbox.com/s/tzgrwkyven6m08x/manualTeab59.pdf?dl=1 ) กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการประเมินเทียบระดับฯ ไว้ที่หน้า 9 ข้อ 1.1 ว่า “มีสัญชาติไทย” ฉะนั้นคนที่ไม่มีสัญชาติไทยจึงไม่สามารถสมัครเทียบระดับได้
2. วันที่ 4 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า มีนักศึกษาเอาใบสด8 มาเทียบโอน ในระดับม.ปลาย ไม่ทราบว่าเทียบโอนได้รายวิชาอะไรบ้าง
แต่ "การเทียบระดับ" ไม่ใช่การเรียน การเทียบระดับเป็นการประเมินเพื่อยอมรับระดับความรู้ที่เขามีความรู้อยู่แล้ว
ตามคู่มือการดำเนินงานเทียบระดับการศึกษา ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2559 ( ดาวน์โหลดได้ที่ https://www.dropbox.com/s/tzgrwkyven6m08x/manualTeab59.pdf?dl=1 ) กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการประเมินเทียบระดับฯ ไว้ที่หน้า 9 ข้อ 1.1 ว่า “มีสัญชาติไทย” ฉะนั้นคนที่ไม่มีสัญชาติไทยจึงไม่สามารถสมัครเทียบระดับได้
2. วันที่ 4 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า มีนักศึกษาเอาใบสด8 มาเทียบโอน ในระดับม.ปลาย ไม่ทราบว่าเทียบโอนได้รายวิชาอะไรบ้าง
ผมตอบว่า จะเทียบโอนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (
กลุ่มทหารกองประจำการหรือทหารเกณฑ์ ) ใช่ไหม
สด.8 คืออะไร เขาได้มาโดยการเรียน รด.ปี 3 หรือโดยการเป็นทหารกองประจำการครบตามที่ พรบ.การรับราชการทหารกำหนด ?
ถ้าเป็นทหารกองประจำการครบจึงจะเทียบโอนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะนี้ได้
( หลักฐานที่ใช้คือ สมุดประจำตัวทหารกองหนุน หรือ หนังสือรับรองการปลดประจำการจากผู้บังคับหน่วยทหารตั้งแต่ระดับกองพันหรือผู้บังคับบัญชากองร้อยอิสระหรือผู้บังคับการเรือชั้น 3 ขึ้นไป )
สด.8 คืออะไร เขาได้มาโดยการเรียน รด.ปี 3 หรือโดยการเป็นทหารกองประจำการครบตามที่ พรบ.การรับราชการทหารกำหนด ?
ถ้าเป็นทหารกองประจำการครบจึงจะเทียบโอนกลุ่มเป้าหมายเฉพาะนี้ได้
( หลักฐานที่ใช้คือ สมุดประจำตัวทหารกองหนุน หรือ หนังสือรับรองการปลดประจำการจากผู้บังคับหน่วยทหารตั้งแต่ระดับกองพันหรือผู้บังคับบัญชากองร้อยอิสระหรือผู้บังคับการเรือชั้น 3 ขึ้นไป )
เทียบโอนได้รายวิชาอะไรบ้าง
ดูในหนังสือปกสีเขียว “แนวทางการเทียบโอนผลการเรียน จากความรู้และประสบการณ์กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
เข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราชช 2551” หนังสือนี้
ส่วนกลางส่งให้ทุกอำเภอแล้ว
ส่งให้พร้อมกับเล่มสีน้ำเงิน “การเทียบโอนจากหลักสูตร
44 เข้าสู่หลักสูตร 51”
ดูภาพปกในข้อ 2 ที่ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/487113
ถ้าหาเล่มสีเขียวนี้ไม่เจอ ดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่ https://www.dropbox.com/s/e10tvqv7b5t1tk9/teboon.rar?dl=1
หรือ เมื่อปี 59 ให้ครูทุกคนเข้าอบรมขับเคลื่อนการจัดทำแผนการเรียนรู้รายบุคคล ในเอกสารประกอบการอบรมก็มีเรื่องการเทียบโอนฯกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ นี้
3. วันที่ 8 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า เรื่องสอบครูผู้ช่วย กศน. ในกรณีปัจจุบันเป็นครู กศน.ตำบล แต่ยังไม่มีวุฒิครู จะสอบได้ไหม
ดูภาพปกในข้อ 2 ที่ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/487113
ถ้าหาเล่มสีเขียวนี้ไม่เจอ ดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่ https://www.dropbox.com/s/e10tvqv7b5t1tk9/teboon.rar?dl=1
หรือ เมื่อปี 59 ให้ครูทุกคนเข้าอบรมขับเคลื่อนการจัดทำแผนการเรียนรู้รายบุคคล ในเอกสารประกอบการอบรมก็มีเรื่องการเทียบโอนฯกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ นี้
3. วันที่ 8 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า เรื่องสอบครูผู้ช่วย กศน. ในกรณีปัจจุบันเป็นครู กศน.ตำบล แต่ยังไม่มีวุฒิครู จะสอบได้ไหม
ผมตอบว่า วุฒิครู คือ ปริญญาทางการศึกษา คุณสมบัติในการสมัครสอบครูผู้ช่วยมีหลายข้อ
ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งก็สมัครไม่ได้ โดยมีข้อหนึ่งกำหนดว่า “มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด”
ฉะนั้น แม้จะเป็นครู กศน. แต่ถ้าไม่มีทั้งปริญญาทางการศึกษา หรือปริญญาทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด ก็ไม่มีสิทธิสมัครสอบครูผู้ช่วย
แต่.. ปริญญาทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด มีมากกว่าหนึ่งหมื่นเก้าพันคุณวุฒินะ มีวุฒิอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ในเว็บ ก.ค.ศ. ที่ http://qualification.otepc.go.th/menu.php โดย
- ชี้ที่ "คุณวุฒิ” คลิกที่ “รับรองก่อน 6 ก.ย.54"
- ใส่ชื่อมหาวิทยาลัยในช่อง ค้นหา
- คลิกที่ปุ่มค้นหา (รูปแว่นขยาย) ก็จะโชว์วุฒิที่ ก.ค.ศ.รับรอง ( อาจมีหลายหน้า ให้คลิกดูทีละหน้า ) ถ้าดูทุกหน้าแล้วไม่มีวุฒิที่หา ให้กลับออกมาแล้วคลิกเข้าไปหาที่ "คุณวุฒิ รับรองหลัง 6 ก.ย.54" ด้วย ถ้าไม่มีอีก แสดงว่าวุฒินั้นไม่ได้รับการรับรอง ถ้าไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถาม ก.ค.ศ.
ฉะนั้น แม้จะเป็นครู กศน. แต่ถ้าไม่มีทั้งปริญญาทางการศึกษา หรือปริญญาทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด ก็ไม่มีสิทธิสมัครสอบครูผู้ช่วย
แต่.. ปริญญาทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนด มีมากกว่าหนึ่งหมื่นเก้าพันคุณวุฒินะ มีวุฒิอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ในเว็บ ก.ค.ศ. ที่ http://qualification.otepc.go.th/menu.php โดย
- ชี้ที่ "คุณวุฒิ” คลิกที่ “รับรองก่อน 6 ก.ย.54"
- ใส่ชื่อมหาวิทยาลัยในช่อง ค้นหา
- คลิกที่ปุ่มค้นหา (รูปแว่นขยาย) ก็จะโชว์วุฒิที่ ก.ค.ศ.รับรอง ( อาจมีหลายหน้า ให้คลิกดูทีละหน้า ) ถ้าดูทุกหน้าแล้วไม่มีวุฒิที่หา ให้กลับออกมาแล้วคลิกเข้าไปหาที่ "คุณวุฒิ รับรองหลัง 6 ก.ย.54" ด้วย ถ้าไม่มีอีก แสดงว่าวุฒินั้นไม่ได้รับการรับรอง ถ้าไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถาม ก.ค.ศ.
ส่วนคำว่า “ปริญญาทางการศึกษา” ( ที่ภาษาพูดว่า “วุฒิครู” ) นั้น ได้แก่
1) การศึกษา
2) ครุศาสตร์
3) ศึกษาศาสตร์
4) ครุศาสตร์อุตสาหกรรม
5) ศิลปศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน )
6) วิทยาศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน หรือ การสอน )
7) คหกรรมศาสตร์ วิชาเอกคหกรรมศาสตร์ศึกษา
8) เกษตรศาสตร์ วิชาเอกเกษตรศึกษา
9) บริหารธุรกิจ วิชาเอกธุรกิจศึกษา
1) การศึกษา
2) ครุศาสตร์
3) ศึกษาศาสตร์
4) ครุศาสตร์อุตสาหกรรม
5) ศิลปศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน )
6) วิทยาศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน หรือ การสอน )
7) คหกรรมศาสตร์ วิชาเอกคหกรรมศาสตร์ศึกษา
8) เกษตรศาสตร์ วิชาเอกเกษตรศึกษา
9) บริหารธุรกิจ วิชาเอกธุรกิจศึกษา
และ.. ปกติ พนักงานราชการ กศน.
ตำแหน่งครู ( เช่นครูอาสาฯ ครู กศน.ตำบล ) ทุกคน
จะต้องมีปริญญาทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.รับรอง อยู่แล้วนะ เพราะ คุณสมบัติในการสมัครเป็นพนักงานราชการ
กศน. ตำแหน่งครู ก็กำหนดให้มีปริญญาทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.รับรอง
เช่นกัน
ถ้าพนักงานราชการ กศน.ตำแหน่งครูคนใดไม่มีปริญญาทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.รับรอง แสดงว่า จังหวัดนั้นทำผิดในการคัดเลือกพนักงานราชการตำแหน่งครู
โดย รุ่นเก่าจะกำหนดคุณสมบัติว่า "มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน กศน."
ส่วนรุ่นหลัง ตั้งแต่ 24 ก.พ.58 เป็นต้นมา เปลี่ยนเป็นกำหนดคุณสมบัติว่า “มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา เฉพาะ 3 วุฒิ คือ ศึกษาศาสตร์ การศึกษา ครุศาสตร์ ถ้าเป็นคนในสังกัด กศน.เพิ่มอีก 1 วุฒิ คือ ป.บัณฑิต”
4. วันที่ 12 ธ.ค.60 มี ผอ.กศน.เขต ถามผมทางโทรศัพท์ ว่า ครู ศรช.รับผิดชอบ นศ.ได้กี่คน เกินเท่าไรจึงจะจ้างครู ศรช.เพิ่มได้อีก จ้างเป็นครูประจำกลุ่มได้ไหม
ถ้าพนักงานราชการ กศน.ตำแหน่งครูคนใดไม่มีปริญญาทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.รับรอง แสดงว่า จังหวัดนั้นทำผิดในการคัดเลือกพนักงานราชการตำแหน่งครู
โดย รุ่นเก่าจะกำหนดคุณสมบัติว่า "มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน กศน."
ส่วนรุ่นหลัง ตั้งแต่ 24 ก.พ.58 เป็นต้นมา เปลี่ยนเป็นกำหนดคุณสมบัติว่า “มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา เฉพาะ 3 วุฒิ คือ ศึกษาศาสตร์ การศึกษา ครุศาสตร์ ถ้าเป็นคนในสังกัด กศน.เพิ่มอีก 1 วุฒิ คือ ป.บัณฑิต”
4. วันที่ 12 ธ.ค.60 มี ผอ.กศน.เขต ถามผมทางโทรศัพท์ ว่า ครู ศรช.รับผิดชอบ นศ.ได้กี่คน เกินเท่าไรจึงจะจ้างครู ศรช.เพิ่มได้อีก จ้างเป็นครูประจำกลุ่มได้ไหม
ผมตอบว่า หนังสือแจ้งแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเกณฑ์สำหรับครู
ฉบับล่าสุดเป็นฉบับเมื่อ 30 พ.ย.2558 ( หนังสือ สป.ศธ.ที่ ศธ 0210.03/14360
ดาวน์โหลดได้ที่ https://www.dropbox.com/s/zjbq6ciwb9oguln/criteria.pdf?dl=1
) หลังจากนั้นยังไม่มีฉบับที่ใหม่กว่า
ในเรื่องของการจ้างครูประจำกลุ่ม ค่อนข้างสับสน เปลี่ยนกลับไปมา แต่ละกลุ่มงานในส่วนกลางก็มีความรู้ความเข้าใจที่เป็นปัจจุบันทันสมัยไม่เท่ากัน บางคนก็ยังใช้ฉบับที่เก่าแล้วนำขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นฉบับหลังไปอีก
ซึ่งเดิมเคยให้ยกเลิกการจ้างครูประจำกลุ่มไปแล้ว เหลือเฉพาะครูประจำกลุ่มของกลุ่มเป้าหมายพิเศษเช่นกลุ่มทหาร กลุ่มผู้ต้องขัง สมัยท่านประเสริฐ บุญเรื่องก็มีการย้ำชัดว่าให้จ้างครูประจำกลุ่มได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ส่วนกลุ่มทั่วไปให้จ้างเป็นครู ศรช.
แต่หนังสือฉบับวันที่ 30 พ.ย.58 นี้ ออกมาในสมัยท่านสุรพงษ์ จำจด พูดถึงการจ้างครูประจำกลุ่มในกลุ่มทั่วไป
ผมจึงขอสรุปตามหนังสือฉบับล่าสุด ณ ขณะนี้ ว่า จ้างเป็นครูประจำกลุ่มได้
ในเรื่องของการจ้างครูประจำกลุ่ม ค่อนข้างสับสน เปลี่ยนกลับไปมา แต่ละกลุ่มงานในส่วนกลางก็มีความรู้ความเข้าใจที่เป็นปัจจุบันทันสมัยไม่เท่ากัน บางคนก็ยังใช้ฉบับที่เก่าแล้วนำขึ้นมาใหม่จนกลายเป็นฉบับหลังไปอีก
ซึ่งเดิมเคยให้ยกเลิกการจ้างครูประจำกลุ่มไปแล้ว เหลือเฉพาะครูประจำกลุ่มของกลุ่มเป้าหมายพิเศษเช่นกลุ่มทหาร กลุ่มผู้ต้องขัง สมัยท่านประเสริฐ บุญเรื่องก็มีการย้ำชัดว่าให้จ้างครูประจำกลุ่มได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ส่วนกลุ่มทั่วไปให้จ้างเป็นครู ศรช.
แต่หนังสือฉบับวันที่ 30 พ.ย.58 นี้ ออกมาในสมัยท่านสุรพงษ์ จำจด พูดถึงการจ้างครูประจำกลุ่มในกลุ่มทั่วไป
ผมจึงขอสรุปตามหนังสือฉบับล่าสุด ณ ขณะนี้ ว่า จ้างเป็นครูประจำกลุ่มได้
หนังสือฉบับนี้ กำหนดในข้อ 2 ว่า “ครู กศน.ตำบล รับผิดชอบ 1 กลุ่ม ไม่เกิน 40 คน หากจะให้รับผิดชอบจำนวน 2
กลุ่ม ต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน กศน.จังหวัด ( ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 2
กลุ่ม )”
นั่นคือ ครู กศน.ตำบล ต้องรับผิดชอบ นศ. ไม่เกิน 80 คน อำเภอใดมีจำนวน นศ.ไม่พอให้ครู กศน.ตำบลรับผิดชอบได้ถึงรายละ 40 คน ครู กศน.ตำบลก็รับผิดชอบ นศ.ต่ำกว่า 40 คนได้ ( แต่จะให้ครู กศน.ตำบลไม่ต้องรับผิดชอบ นศ. เพื่อใช้ นศ.สำหรับจ้างครู ศรช.เพิ่ม ไม่ได้ )
ในข้อ 6 กำหนดว่า “ครู ศรช.รับผิดชอบผู้เรียนตั้งแต่ 1 กลุ่มขึ้นไป กลุ่มละไม่เกิน 40 คน ทั้งนี้หากมีผู้เรียนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ให้นับรวมกับผู้เรียน/ผู้ร่วมกิจกรรม กศ.นอกระบบและ กศ.ตามอัธยาศัย ( ที่ตนรับผิดชอบ ) ใน แต่ละเดือน ต้องรวมเป็นรับผิดชอบไม่น้อยกว่า 100 คน จึงจะเบิกเหมาจ่ายตามวุฒิ” ไม่ได้ระบุว่าถ้ารวมแล้วก็ยังไม่ครบ 100 คน ให้เบิกจ่ายเป็นรายหัวแบบที่เมื่อก่อนเคยกำหนด
( เรื่องการนับรวมกับจำนวนผู้เรียน/ผู้ร่วมกิจกรรม กศ.ต่อเนื่อง/อัธยาศัย “ในแต่ละเดือน” นี้ ยากในการปฏิบัติ ต้องนับใหม่กันทุกเดือน กศ.ต่อเนื่องบางรุ่นก็เรียนเดือนเดียวจบ จำนวนที่นับได้จึงไม่เท่ากันทุกเดือน บางเดือนรวมถึง 100 คน แต่บางเดือนไม่ถึง 100 คน ยากในการเบิกจ่ายของ จนท.การเงิน )
ในส่วนของเกณฑ์สำหรับ ครู ศรช.นี้ ส่วนกลางไม่กำหนดจำกัดว่าไม่เกินกี่กลุ่ม ให้แต่ละจังหวัดกำหนดเอง
ในข้อ 9 กำหนดว่า “ครูประจำกลุ่ม รับผิดชอบผู้เรียนกลุ่มละไม่เกิน 40 คน ให้ได้รับค่าตอบแทนทุกเดือนเป็นรายหัว ๆ ละไม่เกิน 80 บาท”
แต่ในหนังสือ สป.ศธ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0210.117/7247 ลว.21 มิ.ย.59 เรื่องทบทวนการจ้างครูฯ กำหนดให้จ้างครู กศน.(บุคคลภายนอก) ทุกตำแหน่ง เป็นการจ้างเหมาฯ ระบุให้ครูประจำกลุ่มรับผิดชอบนักศึกษาไม่เกิน 50 คน แต่อัตราการจ้างยังเป็น 19,200 บาท/ภาคเรียน ( 3,200 บาท/เดือน )
นั่นคือ ครู กศน.ตำบล ต้องรับผิดชอบ นศ. ไม่เกิน 80 คน อำเภอใดมีจำนวน นศ.ไม่พอให้ครู กศน.ตำบลรับผิดชอบได้ถึงรายละ 40 คน ครู กศน.ตำบลก็รับผิดชอบ นศ.ต่ำกว่า 40 คนได้ ( แต่จะให้ครู กศน.ตำบลไม่ต้องรับผิดชอบ นศ. เพื่อใช้ นศ.สำหรับจ้างครู ศรช.เพิ่ม ไม่ได้ )
ในข้อ 6 กำหนดว่า “ครู ศรช.รับผิดชอบผู้เรียนตั้งแต่ 1 กลุ่มขึ้นไป กลุ่มละไม่เกิน 40 คน ทั้งนี้หากมีผู้เรียนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ให้นับรวมกับผู้เรียน/ผู้ร่วมกิจกรรม กศ.นอกระบบและ กศ.ตามอัธยาศัย ( ที่ตนรับผิดชอบ ) ใน แต่ละเดือน ต้องรวมเป็นรับผิดชอบไม่น้อยกว่า 100 คน จึงจะเบิกเหมาจ่ายตามวุฒิ” ไม่ได้ระบุว่าถ้ารวมแล้วก็ยังไม่ครบ 100 คน ให้เบิกจ่ายเป็นรายหัวแบบที่เมื่อก่อนเคยกำหนด
( เรื่องการนับรวมกับจำนวนผู้เรียน/ผู้ร่วมกิจกรรม กศ.ต่อเนื่อง/อัธยาศัย “ในแต่ละเดือน” นี้ ยากในการปฏิบัติ ต้องนับใหม่กันทุกเดือน กศ.ต่อเนื่องบางรุ่นก็เรียนเดือนเดียวจบ จำนวนที่นับได้จึงไม่เท่ากันทุกเดือน บางเดือนรวมถึง 100 คน แต่บางเดือนไม่ถึง 100 คน ยากในการเบิกจ่ายของ จนท.การเงิน )
ในส่วนของเกณฑ์สำหรับ ครู ศรช.นี้ ส่วนกลางไม่กำหนดจำกัดว่าไม่เกินกี่กลุ่ม ให้แต่ละจังหวัดกำหนดเอง
ในข้อ 9 กำหนดว่า “ครูประจำกลุ่ม รับผิดชอบผู้เรียนกลุ่มละไม่เกิน 40 คน ให้ได้รับค่าตอบแทนทุกเดือนเป็นรายหัว ๆ ละไม่เกิน 80 บาท”
แต่ในหนังสือ สป.ศธ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0210.117/7247 ลว.21 มิ.ย.59 เรื่องทบทวนการจ้างครูฯ กำหนดให้จ้างครู กศน.(บุคคลภายนอก) ทุกตำแหน่ง เป็นการจ้างเหมาฯ ระบุให้ครูประจำกลุ่มรับผิดชอบนักศึกษาไม่เกิน 50 คน แต่อัตราการจ้างยังเป็น 19,200 บาท/ภาคเรียน ( 3,200 บาท/เดือน )
สรุป
1) จ้างเหมาบริการเป็นครูประจำกลุ่มได้ ครูประจำกลุ่มรับผิดชอบ นศ.ไม่เกิน 50 คน คิดค่าจ้างจากรายหัว ๆ ละไม่เกิน 80 บาท ถ้ารับผิดชอบ นศ.40-50 คน ค่าจ้างเดือนละ 3,200 บาท
2) เกณฑ์จำนวน นศ.สำหรับครู ศรช. จะเป็นเท่าไร ให้แต่ละจังหวัดกำหนด ส่วนที่เกินเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์น่าจะจ้างเป็นครูประจำกลุ่ม เช่น จังหวัด ก. กำหนดให้ครู ศรช.รับผิดชอบ นศ.รายละ 50-90 คน ถ้าอำเภอ ข. มี นศ.เหลือจากการรับผิดชอบของครูประเภทอื่น 100-180 คน ก็จ้างครู ศรช.ได้ 2 คน
ถ้ามี นศ.เหลือ 49 คน ก็จ้างครูประจำกลุ่ม 1 คน, ถ้ามี นศ.เหลือ 181 คน ก็จ้างครู ศรช. 2 คน กับครูประจำกลุ่ม 1 คน เป็นต้น ( ถ้าจังหวัดกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำไว้ 50 คน จะต้องมีจำนวน นศ.เหลือเศษถึง 50 คน จึงจะจ้างครู ศรช.เพิ่มได้อีก 1 คน )
5. วันที่ 15 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า เจ้าหน้าสำนักงาน กศน.จังหวัด เป็นวิทยากรให้ กศน.อำเภอ ในวันและเวลาราชการ สามารถเบิกค่าวิทยากร ชั่วโมงละ 600 บาทได้ไหม
1) จ้างเหมาบริการเป็นครูประจำกลุ่มได้ ครูประจำกลุ่มรับผิดชอบ นศ.ไม่เกิน 50 คน คิดค่าจ้างจากรายหัว ๆ ละไม่เกิน 80 บาท ถ้ารับผิดชอบ นศ.40-50 คน ค่าจ้างเดือนละ 3,200 บาท
2) เกณฑ์จำนวน นศ.สำหรับครู ศรช. จะเป็นเท่าไร ให้แต่ละจังหวัดกำหนด ส่วนที่เกินเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์น่าจะจ้างเป็นครูประจำกลุ่ม เช่น จังหวัด ก. กำหนดให้ครู ศรช.รับผิดชอบ นศ.รายละ 50-90 คน ถ้าอำเภอ ข. มี นศ.เหลือจากการรับผิดชอบของครูประเภทอื่น 100-180 คน ก็จ้างครู ศรช.ได้ 2 คน
ถ้ามี นศ.เหลือ 49 คน ก็จ้างครูประจำกลุ่ม 1 คน, ถ้ามี นศ.เหลือ 181 คน ก็จ้างครู ศรช. 2 คน กับครูประจำกลุ่ม 1 คน เป็นต้น ( ถ้าจังหวัดกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำไว้ 50 คน จะต้องมีจำนวน นศ.เหลือเศษถึง 50 คน จึงจะจ้างครู ศรช.เพิ่มได้อีก 1 คน )
5. วันที่ 15 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า เจ้าหน้าสำนักงาน กศน.จังหวัด เป็นวิทยากรให้ กศน.อำเภอ ในวันและเวลาราชการ สามารถเบิกค่าวิทยากร ชั่วโมงละ 600 บาทได้ไหม
ผมตอบว่า ก่อนอื่นต้องดูว่าเป็นวิทยากรงานอะไร เช่น
เป็นวิทยากรการประชุม หรือเป็นวิทยากรการฝึกอบรม หรืองานการศึกษาต่อเนื่อง
หรืองานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งแต่ละงานมีระเบียบหลักเกณฑ์และอัตราที่แตกต่างกัน
ถ้าเป็นวิทยากรการฝึกอบรม ท่านอาจารย์สุนีย์ หน่วยตรวจสอบภายใน กศน. บอกว่า ปัจจุบันยังใช้มาตรการประหยัดงบประมาณของ สป.ศธ.ฉบับล่าสุด คือฉบับปี 56 อยู่ ( ดูได้ที่ https://www.dropbox.com/s/m9oghdbtsd26p9n/saveMeasure.pdf?dl=1 ) ซึ่งให้ใช้ไปจนกว่าจะมีฉบับใหม่ โดยฉบับนี้ กำหนดในเรื่องการฝึกอบรม ไว้ในข้อ 7.6 ว่า
“7.6 ค่าสมนาคุณวิทยากร บุคลากรในสังกัด สป.ให้เบิกได้เฉพาะวิทยากรต่างสำนัก/หน่วยงานกับผู้จัดการฝึกอบรม ( เช่น ถ้าหน่วยงานสังกัด กศน.จัดฝึกอบรม ก็ไม่ให้วิทยากรที่สังกัด กศน.เบิกค่าสมนาคุณวิทยากร ) กรณีมีความจำเป็นจะเบิกจ่าย ให้ขออนุมัติหัวหน้าส่วนราชการ ( ปลัดกระทรวง ) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรณี ๆ ไป”
6. คืนวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมทางอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า หากเคยบรรจุเป็นพนักงานราชการในวุฒิ ปวส.หรือเทียบเท่า..ต่อมามีตำแหน่งที่เป็นวุฒิปริญญาตรี ได้สอบและได้เลื่อนมาเป็นวุฒิปริญญาตรี การขอเครื่องราชฯ จะนับระยะเวลาต่อเนื่องเลยมั๊ย หรือต้องเริ่มนับตอนที่บรรจุวุฒิปริญญาตรี เนื่องจาก จนท.บอกว่าเครื่องราชฯ จะขอได้เฉพาะตำแหน่งบริหารทั่วไป
ถ้าเป็นวิทยากรการฝึกอบรม ท่านอาจารย์สุนีย์ หน่วยตรวจสอบภายใน กศน. บอกว่า ปัจจุบันยังใช้มาตรการประหยัดงบประมาณของ สป.ศธ.ฉบับล่าสุด คือฉบับปี 56 อยู่ ( ดูได้ที่ https://www.dropbox.com/s/m9oghdbtsd26p9n/saveMeasure.pdf?dl=1 ) ซึ่งให้ใช้ไปจนกว่าจะมีฉบับใหม่ โดยฉบับนี้ กำหนดในเรื่องการฝึกอบรม ไว้ในข้อ 7.6 ว่า
“7.6 ค่าสมนาคุณวิทยากร บุคลากรในสังกัด สป.ให้เบิกได้เฉพาะวิทยากรต่างสำนัก/หน่วยงานกับผู้จัดการฝึกอบรม ( เช่น ถ้าหน่วยงานสังกัด กศน.จัดฝึกอบรม ก็ไม่ให้วิทยากรที่สังกัด กศน.เบิกค่าสมนาคุณวิทยากร ) กรณีมีความจำเป็นจะเบิกจ่าย ให้ขออนุมัติหัวหน้าส่วนราชการ ( ปลัดกระทรวง ) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรณี ๆ ไป”
6. คืนวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมทางอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า หากเคยบรรจุเป็นพนักงานราชการในวุฒิ ปวส.หรือเทียบเท่า..ต่อมามีตำแหน่งที่เป็นวุฒิปริญญาตรี ได้สอบและได้เลื่อนมาเป็นวุฒิปริญญาตรี การขอเครื่องราชฯ จะนับระยะเวลาต่อเนื่องเลยมั๊ย หรือต้องเริ่มนับตอนที่บรรจุวุฒิปริญญาตรี เนื่องจาก จนท.บอกว่าเครื่องราชฯ จะขอได้เฉพาะตำแหน่งบริหารทั่วไป
ผมตอบว่า
1) พนักงานราชการวุฒิ ปวส. กลุ่มงานบริการ ก็ขอเครื่องราชฯได้ ( ดูในบัญชีในข้อ 3 ที่ http://nfeph.blogspot.com/2017/10/soldier.html ) ผมเพิ่งจะโพสต์เรื่องนี้เมื่อ ต.ค.60 นี้
2) แต่เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งเป็นพนักงานราชการกลุ่มงานบริหารทั่วไป เนื่องจากการเปลี่ยนตำแหน่ง/เปลี่ยนกลุ่มงานของพนักงานราชการต้องลาออกและสอบใหม่ ระเบียบ ณ ปัจจุบัน ( 2560 ) ถ้าลาออกการนับเวลาเพื่อการขอเครื่องราชฯจะไม่นับต่อกัน ต้องเริ่มนับเวลาใหม่ ( ถ้านับเวลาเพื่อการสอบเป็นครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ จะนับต่อเนื่องด้วย การนับเวลาเพื่อแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน )
อนึ่ง ถ้าตอนเป็นพนักงานราชการกลุ่มงานบริการครบ 5 ปีขึ้นไปขอเครื่องราชฯได้แล้ว ไม่ต้องส่งคืน ประดับต่อเนื่องไปได้ และเมื่อเป็นพนักงานราชการกลุ่มงานบริหารทั่วไปจนถึงเวลาขอเครื่องราชฯที่เคยได้แล้วก็ไม่ต้องขอซ้ำอีก ควรแจ้งฝ่ายบุคลากรของจังหวัดว่าเราเคยได้รับเครื่องราชฯใดแล้ว
7. วันที่ 20 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า กศน.อำเภอจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน “ค่ายวิทย์ฯ” ที่ กศน.อำเภอ เชิญบุคลากรของศูนย์วิทย์มาเป็นวิทยากร กศน.อำเภอเบิกเงินค่าวิทยากรให้กับวิทยากรของศูนย์ฯวิทย์ได้หรือเปล่า
1) พนักงานราชการวุฒิ ปวส. กลุ่มงานบริการ ก็ขอเครื่องราชฯได้ ( ดูในบัญชีในข้อ 3 ที่ http://nfeph.blogspot.com/2017/10/soldier.html ) ผมเพิ่งจะโพสต์เรื่องนี้เมื่อ ต.ค.60 นี้
2) แต่เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งเป็นพนักงานราชการกลุ่มงานบริหารทั่วไป เนื่องจากการเปลี่ยนตำแหน่ง/เปลี่ยนกลุ่มงานของพนักงานราชการต้องลาออกและสอบใหม่ ระเบียบ ณ ปัจจุบัน ( 2560 ) ถ้าลาออกการนับเวลาเพื่อการขอเครื่องราชฯจะไม่นับต่อกัน ต้องเริ่มนับเวลาใหม่ ( ถ้านับเวลาเพื่อการสอบเป็นครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ จะนับต่อเนื่องด้วย การนับเวลาเพื่อแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน )
อนึ่ง ถ้าตอนเป็นพนักงานราชการกลุ่มงานบริการครบ 5 ปีขึ้นไปขอเครื่องราชฯได้แล้ว ไม่ต้องส่งคืน ประดับต่อเนื่องไปได้ และเมื่อเป็นพนักงานราชการกลุ่มงานบริหารทั่วไปจนถึงเวลาขอเครื่องราชฯที่เคยได้แล้วก็ไม่ต้องขอซ้ำอีก ควรแจ้งฝ่ายบุคลากรของจังหวัดว่าเราเคยได้รับเครื่องราชฯใดแล้ว
7. วันที่ 20 ธ.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า กศน.อำเภอจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน “ค่ายวิทย์ฯ” ที่ กศน.อำเภอ เชิญบุคลากรของศูนย์วิทย์มาเป็นวิทยากร กศน.อำเภอเบิกเงินค่าวิทยากรให้กับวิทยากรของศูนย์ฯวิทย์ได้หรือเปล่า
เรื่องนี้ ผมเคอยบอกแล้วว่า ก่อนอื่นต้องดูว่าเป็นวิทยากรงานอะไร
เช่น เป็นวิทยากรการประชุม หรือเป็นวิทยากรการฝึกอบรม หรืองานการศึกษาต่อเนื่อง หรืองานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซึ่งแต่ละงานมีระเบียบหลักเกณฑ์และอัตราที่แตกต่างกัน
ท่านอาจารย์สุนีย์ หน่วยตรวจสอบภายใน กศน. บอกว่า ถ้าจัดฝึกอบรมนักศึกษา จ่ายจากเงินอุดหนุนตามคำสั่ง สป.ที่ 605 ( เป็นงาน กศ.ขั้นพื้นฐาน จึงไม่ใช้ระเบียบการฝึกอบรม และไม่โยงกับมาตรการประหยัดงบประมาณ ) สามารถจ่ายค่าตอบแทนวิทยากร ให้วิทยากรที่เป็นบุคลากรในสังกัด กศน.ด้วยกันได้ไม่เกินชั่วโมงละ 200 บาทต่อคน ( ไม่เกินชั่วโมงละ 600 บาทต่อคณะ 3 คนขึ้นไป ) แต่เขาไม่ควรเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการซ้ำซ้อนกับรับค่าตอบแทนวิทยากร
และถ้าไปเข้าค่ายในศูนย์วิทยฯมีผู้ทำหน้าที่ให้ความรู้ซึ่งเป็นหน้าที่ตามตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่สามารถเบิกค่าตอบแทนได้
ท่านอาจารย์สุนีย์ หน่วยตรวจสอบภายใน กศน. บอกว่า ถ้าจัดฝึกอบรมนักศึกษา จ่ายจากเงินอุดหนุนตามคำสั่ง สป.ที่ 605 ( เป็นงาน กศ.ขั้นพื้นฐาน จึงไม่ใช้ระเบียบการฝึกอบรม และไม่โยงกับมาตรการประหยัดงบประมาณ ) สามารถจ่ายค่าตอบแทนวิทยากร ให้วิทยากรที่เป็นบุคลากรในสังกัด กศน.ด้วยกันได้ไม่เกินชั่วโมงละ 200 บาทต่อคน ( ไม่เกินชั่วโมงละ 600 บาทต่อคณะ 3 คนขึ้นไป ) แต่เขาไม่ควรเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการซ้ำซ้อนกับรับค่าตอบแทนวิทยากร
และถ้าไปเข้าค่ายในศูนย์วิทยฯมีผู้ทำหน้าที่ให้ความรู้ซึ่งเป็นหน้าที่ตามตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่สามารถเบิกค่าตอบแทนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย