สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. ดึกวันที่ 20 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า กรณีเป็นพนักงานราชการที่สำนักงาน กศน.จังหวัดปัตตานี 5 เดือน และมาทำสัญญาใหม่ เป็นพนักงานราชการที่สำนักงาน กศน.จังหวัดยะลา อีก 4 เดือน สัญญาต่อเนื่องกัน กรณีแบบนี้จะมีสิทธิ์ลาพักผ่อนได้หรือยัง
1. ดึกวันที่ 20 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า กรณีเป็นพนักงานราชการที่สำนักงาน กศน.จังหวัดปัตตานี 5 เดือน และมาทำสัญญาใหม่ เป็นพนักงานราชการที่สำนักงาน กศน.จังหวัดยะลา อีก 4 เดือน สัญญาต่อเนื่องกัน กรณีแบบนี้จะมีสิทธิ์ลาพักผ่อนได้หรือยัง
ผมถามกลับว่า ลาออกจากที่เดิมมาสอบบรรจุใหม่ หรือว่า ย้ายเปลี่ยนพื้นที่ปฏิบัติงาน
ผู้ถามบอกว่า ลาออกจากที่เดิม มาสอบบรรจุใหม่
ผมตอบว่า ถ้าลาออกมาสอบบรรจุใหม่ โดยงานเดิมทำไม่ครบ 6 เดือน กรณีการลาจะไม่นับอายุงานเดิม ฉะนั้นยังไม่มีสิทธิขอลาพักผ่อน ต้องรอจนกว่าอายุงานใหม่ครบ 6 เดือน จึงจะมีสิทธิขอลาพักผ่อน
( ถ้าเป็นการย้ายเปลี่ยนพื้นที่ปฏิบัติงาน จึงจะนับอายุงานรวมกัน )
2. ดึกวันที่ 21 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า จังหวัดทำลักษณะของงานที่จ้างเหมาบริการด้วยเงินอุดหนุน ผู้บริหารส่วนใหญ่บอกว่าจ้าง รปภ. คนสวน นักคอมพิวเตอร์ พนักงานบริการ ถ้ากำหนดลักษณะของงานให้ไปเกี่ยวกับนักศึกษา ก็สามารถจ้างได้... เลยไม่ได้พูดอะไร ถ้าพูดไปว่าจ้างไม่ได้ จะทำให้คนที่ถูกจ้างเดือดร้อน หลายอำเภออาจตำหนิ เพราะจ้างต่อเนื่องมา เลยขอความรู้จากอาจารย์ จ้างได้หรือไม่ขอความกรุณาอาจารย์เผยแพร่ให้ความรู้
ผู้ถามบอกว่า ลาออกจากที่เดิม มาสอบบรรจุใหม่
ผมตอบว่า ถ้าลาออกมาสอบบรรจุใหม่ โดยงานเดิมทำไม่ครบ 6 เดือน กรณีการลาจะไม่นับอายุงานเดิม ฉะนั้นยังไม่มีสิทธิขอลาพักผ่อน ต้องรอจนกว่าอายุงานใหม่ครบ 6 เดือน จึงจะมีสิทธิขอลาพักผ่อน
( ถ้าเป็นการย้ายเปลี่ยนพื้นที่ปฏิบัติงาน จึงจะนับอายุงานรวมกัน )
2. ดึกวันที่ 21 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า จังหวัดทำลักษณะของงานที่จ้างเหมาบริการด้วยเงินอุดหนุน ผู้บริหารส่วนใหญ่บอกว่าจ้าง รปภ. คนสวน นักคอมพิวเตอร์ พนักงานบริการ ถ้ากำหนดลักษณะของงานให้ไปเกี่ยวกับนักศึกษา ก็สามารถจ้างได้... เลยไม่ได้พูดอะไร ถ้าพูดไปว่าจ้างไม่ได้ จะทำให้คนที่ถูกจ้างเดือดร้อน หลายอำเภออาจตำหนิ เพราะจ้างต่อเนื่องมา เลยขอความรู้จากอาจารย์ จ้างได้หรือไม่ขอความกรุณาอาจารย์เผยแพร่ให้ความรู้
ผมตอบว่า
1) เรื่องนี้ผู้ตรวจสอบภายในก็ตอบชัดเจนและผมนำมาโพสต์ 2-3 ครั้งแล้วว่า ถ้าใช้เงินอุดหนุนรายหัวจ้าง ต้องจ้างเพื่อ ดำเนินงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน “โดยตรง” โดยพิจารณาจาก "ขอบเขตงานจ้าง" ว่าเป็นการดำเนินงานการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยตรงหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการจ้างใน 39 หน้าที่ ส่วนกลางสั่งการไว้ชัดเจน ไม่ได้ให้จังหวัดปรับเปลี่ยนขอบเขตงานจ้าง.. ซึ่งก็สรุปไว้แล้วว่า จ้างในหน้าครูต่าง ๆ ( ครู ศรช. ครูผู้สอนคนพิการ ครู ปวช. ครูประจำกลุ่ม ครูบ้านยามชายแดน ครูผู้สอนเด็กเร่ร่อน ครูชาวเล ครู กพด.) จนท.บันทึกข้อมูล ได้ แต่จ้างในหน้าที่ จนท.งานธุรการ การเงิน บัญชี พนง.บริการ ไม่ได้ ( ยิ่งถ้าเป็นหน้าที่ รปภ. คนสวน ยิ่งจะจ้างไม่ได้ )
ถึงผมจะโพสต์อีกเป็นครั้งที่ 4-5 ก็ไม่มีประโยชน์ คนที่ไม่สนใจเชื่อถือ ก็ไม่สนใจเชื่อถือเหมือนเดิม
2) แม้เราจะเห็นใจผู้รับจ้างมากเพียงใด เราก็ได้แต่เห็นใจ ถ้าเราไม่ได้ใช้เงินส่วนตัวจ้าง เราไม่มีสิทธิทำผิด จะเบิกจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินโดยไม่ถูกต้องไม่ได้ กระทรวงการคลังก็แจ้งเวียนมายังทุกกระทรวงทุกกรมว่า
“ปัจจุบัน ส่วนราชการหลายแห่งได้ดำเนินการจ้างเอกชนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา เพื่อปฏิบัติงานในลักษณะเช่นเดียวกับการจ้างแรงงาน ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้รับจ้างคิดว่าเป็นบุคลากรของรัฐ และเรียกร้องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้เหมือนบุคลากรของรัฐ ดังนั้นเพื่อลดปัญหาข้อโต้แย้ง จึงให้ส่วนราชการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเคร่งครัด ดำเนินการจ้างตามระเบียบพัสดุ ไม่ใช่ระเบียบลูกจ้าง จ้างดำเนินงานเฉพาะโครงการหรือเฉพาะครั้งคราวที่มีความจำเป็นเพื่อเสริม การปฏิบัติงานในหน้าที่ปกติ ของส่วนราชการ มิให้ทำสัญญาจ้างในลักษณะต่อเนื่อง”
แม้จะไม่ได้คะแนนนิยม ผมก็ระมัดระวังไม่โพสต์คำที่ได้ใจฝ่ายใด เพราะจะเสียระบบราชการ
กศน.เรามักจะคำนึงถึงความรู้สึกอยู่เหนือระเบียบกฎหมาย ทำให้มีปัญหาต่อไป
3) ที่ถูกต้อง ถ้าไม่ชัดเจนว่าจ้างได้หรือไม่ ต้องทำหนังสือหารือก่อน คำตอบอย่างไม่เป็นทางการจะใช้เป็นเกราะกันความผิดไม่ได้ ถ้าเขาไม่หารือเพราะมั่นใจว่าจ้างได้ ผู้จ้างก็เป็นผู้รับผิดชอบ จบ
3. วันที่ 21 ก.ย.60 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า เมื่อปีที่แล้ว ท่านสุรพงษ์ ให้พนักงานราชการ ครูอาสาฯ ขอเปลี่ยนตำแหน่งได้ ถ้ามีตำแหน่งว่าง พอจะมีข้อมูลไหม
1) เรื่องนี้ผู้ตรวจสอบภายในก็ตอบชัดเจนและผมนำมาโพสต์ 2-3 ครั้งแล้วว่า ถ้าใช้เงินอุดหนุนรายหัวจ้าง ต้องจ้างเพื่อ ดำเนินงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน “โดยตรง” โดยพิจารณาจาก "ขอบเขตงานจ้าง" ว่าเป็นการดำเนินงานการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยตรงหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นการจ้างใน 39 หน้าที่ ส่วนกลางสั่งการไว้ชัดเจน ไม่ได้ให้จังหวัดปรับเปลี่ยนขอบเขตงานจ้าง.. ซึ่งก็สรุปไว้แล้วว่า จ้างในหน้าครูต่าง ๆ ( ครู ศรช. ครูผู้สอนคนพิการ ครู ปวช. ครูประจำกลุ่ม ครูบ้านยามชายแดน ครูผู้สอนเด็กเร่ร่อน ครูชาวเล ครู กพด.) จนท.บันทึกข้อมูล ได้ แต่จ้างในหน้าที่ จนท.งานธุรการ การเงิน บัญชี พนง.บริการ ไม่ได้ ( ยิ่งถ้าเป็นหน้าที่ รปภ. คนสวน ยิ่งจะจ้างไม่ได้ )
ถึงผมจะโพสต์อีกเป็นครั้งที่ 4-5 ก็ไม่มีประโยชน์ คนที่ไม่สนใจเชื่อถือ ก็ไม่สนใจเชื่อถือเหมือนเดิม
2) แม้เราจะเห็นใจผู้รับจ้างมากเพียงใด เราก็ได้แต่เห็นใจ ถ้าเราไม่ได้ใช้เงินส่วนตัวจ้าง เราไม่มีสิทธิทำผิด จะเบิกจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินโดยไม่ถูกต้องไม่ได้ กระทรวงการคลังก็แจ้งเวียนมายังทุกกระทรวงทุกกรมว่า
“ปัจจุบัน ส่วนราชการหลายแห่งได้ดำเนินการจ้างเอกชนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา เพื่อปฏิบัติงานในลักษณะเช่นเดียวกับการจ้างแรงงาน ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้รับจ้างคิดว่าเป็นบุคลากรของรัฐ และเรียกร้องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้เหมือนบุคลากรของรัฐ ดังนั้นเพื่อลดปัญหาข้อโต้แย้ง จึงให้ส่วนราชการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเคร่งครัด ดำเนินการจ้างตามระเบียบพัสดุ ไม่ใช่ระเบียบลูกจ้าง จ้างดำเนินงานเฉพาะโครงการหรือเฉพาะครั้งคราวที่มีความจำเป็นเพื่อเสริม การปฏิบัติงานในหน้าที่ปกติ ของส่วนราชการ มิให้ทำสัญญาจ้างในลักษณะต่อเนื่อง”
แม้จะไม่ได้คะแนนนิยม ผมก็ระมัดระวังไม่โพสต์คำที่ได้ใจฝ่ายใด เพราะจะเสียระบบราชการ
กศน.เรามักจะคำนึงถึงความรู้สึกอยู่เหนือระเบียบกฎหมาย ทำให้มีปัญหาต่อไป
3) ที่ถูกต้อง ถ้าไม่ชัดเจนว่าจ้างได้หรือไม่ ต้องทำหนังสือหารือก่อน คำตอบอย่างไม่เป็นทางการจะใช้เป็นเกราะกันความผิดไม่ได้ ถ้าเขาไม่หารือเพราะมั่นใจว่าจ้างได้ ผู้จ้างก็เป็นผู้รับผิดชอบ จบ
3. วันที่ 21 ก.ย.60 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า เมื่อปีที่แล้ว ท่านสุรพงษ์ ให้พนักงานราชการ ครูอาสาฯ ขอเปลี่ยนตำแหน่งได้ ถ้ามีตำแหน่งว่าง พอจะมีข้อมูลไหม
ผมตอบว่า เรื่องพนักงานราชการ
อยู่นอกเหนืออำนาจ รมว.ศธ. ( ก.พ.ร. ผู้ดูแลพนักงานราชการ ไม่ได้สังกัดกระทรวง ศธ.
ต่างจาก ขรก.ครู ที่ดูแลโดย ก.ค.ศ.ซึ่งสังกัดกระทรวง ศธ. ท่าน รมว.ศธ.ยังขอให้ ก.ค.ศ.เปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง
)
เรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งพนักงานราชการนี้ ไม่ว่าปีก่อน ๆ หรือปีนี้หรือปีไหน ถ้าเป็นตำแหน่งว่าง จังหวัดสามารถเสนอให้ต้นสังกัดเปลี่ยนตำแหน่งได้ เช่นเมื่อตำแหน่งครูอาสาฯว่างลง ( ลาออก เลิกจ้าง เสียชีวิต อายุครบ 60 ) จังหวัดอาจเสนอขอเปลี่ยนตำแหน่งครูอาสาฯเป็นตำแหน่งบรรณารักษ์แล้วสอบคัดเลือก/บรรจุคนใหม่ในตำแหน่งบรรณารักษ์ เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่มีคนครองอยู่ จะเปลี่ยนตำแหน่งคนนั้นไม่ได้ ปีไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนได้
4. วันที่ 21 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในกลุ่มไลน์ “ห้องสมุดชาวตลาด” ว่า บรรจุ 1 กพ.60 ประเมิน ครั้งที่ 2 ได้ปรับเงินเดือนมั้ย
เรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งพนักงานราชการนี้ ไม่ว่าปีก่อน ๆ หรือปีนี้หรือปีไหน ถ้าเป็นตำแหน่งว่าง จังหวัดสามารถเสนอให้ต้นสังกัดเปลี่ยนตำแหน่งได้ เช่นเมื่อตำแหน่งครูอาสาฯว่างลง ( ลาออก เลิกจ้าง เสียชีวิต อายุครบ 60 ) จังหวัดอาจเสนอขอเปลี่ยนตำแหน่งครูอาสาฯเป็นตำแหน่งบรรณารักษ์แล้วสอบคัดเลือก/บรรจุคนใหม่ในตำแหน่งบรรณารักษ์ เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่มีคนครองอยู่ จะเปลี่ยนตำแหน่งคนนั้นไม่ได้ ปีไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนได้
4. วันที่ 21 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในกลุ่มไลน์ “ห้องสมุดชาวตลาด” ว่า บรรจุ 1 กพ.60 ประเมิน ครั้งที่ 2 ได้ปรับเงินเดือนมั้ย
ผมตอบว่า ถามเรื่องพนักงานราชการใช่หรือเปล่า พนักงานราชการถ้าบรรจุทำงานไม่ครบ
8
เดือน ( นับถึง 30 ก.ย.) จะปรับเลื่อนเงินเดือนไม่ได้
โดยถ้าบรรจุ หลัง วันที่ 1 ก.พ. จะไม่ครบ 8 เดือน ( บรรจุวันที่ 2 ก.พ. จะไม่ครบ 8 เดือน, บรรจุวันที่ 1 ก.พ. ครบ
8 เดือนพอดี มีสิทธิ์ได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือน ถ้าผลการประเมินอยู่ในระดับดีขึ้นไป
ถ้าประเมินครั้งเดียวก็ใช้คะแนนครั้งเดียวไม่ต้องหารด้วย
2 )
5. วันที่ 25 ก.ย.60 มีผู้ส่งเอกสาร/ข้อมูลมาถึงผมทางไลน์ ว่า ผอ.กศน.อ.สอยดาว จะใช้คำสั่งมอบอำนาจ ( คำสั่ง สป.ศธ.ที่ 489/51 ) ข้อ 1 มาออกคำสั่งมอบให้ครู กศน.ตำบลเปลี่ยนพื้นที่ตำบลในการปฏิบัติงานกัน แต่ครู กศน.ตำบลบางคนไม่อยากเปลี่ยนเพราะปฏิบัติงานที่ตำบลนั้นตามเลขที่ตำแหน่งเดิมตั้งแต่ลงครั้งแรก ประสานงานกับชุมชนและภาคีเครือข่ายได้เป็นอย่างดี.. ถามว่า ผอ.อำเภอ สามารถให้ ครู กศน.สับเปลี่ยนพื้นที่ปฏิบัติงาน ไปอยู่ตำบลอื่นได้หรือไม่
5. วันที่ 25 ก.ย.60 มีผู้ส่งเอกสาร/ข้อมูลมาถึงผมทางไลน์ ว่า ผอ.กศน.อ.สอยดาว จะใช้คำสั่งมอบอำนาจ ( คำสั่ง สป.ศธ.ที่ 489/51 ) ข้อ 1 มาออกคำสั่งมอบให้ครู กศน.ตำบลเปลี่ยนพื้นที่ตำบลในการปฏิบัติงานกัน แต่ครู กศน.ตำบลบางคนไม่อยากเปลี่ยนเพราะปฏิบัติงานที่ตำบลนั้นตามเลขที่ตำแหน่งเดิมตั้งแต่ลงครั้งแรก ประสานงานกับชุมชนและภาคีเครือข่ายได้เป็นอย่างดี.. ถามว่า ผอ.อำเภอ สามารถให้ ครู กศน.สับเปลี่ยนพื้นที่ปฏิบัติงาน ไปอยู่ตำบลอื่นได้หรือไม่
ผมตอบว่า เฉพาะตำแหน่งครู กศน.ตำบล นั้น
เลขที่ตำแหน่งจะระบุตำบล
การเปลี่ยนพื้นที่ต้องเป็นไปตามความประสงค์ของพนักงานราชการและดำเนินการโดยจังหวัด
( ตามข้อ 5 ในหนังสือ สป.ศธ.ที่ ศธ 0210.118/12731 ลว.6 ก.ย.60 )
ส่วนคำสั่ง สป.ศธ.ที่ 489/51 ข้อ 1 นั้น ไม่ได้มอบอำนาจให้ ผอ.กศน.อำเภอ ย้าย/เปลี่ยนพื้นที่พนักงานราชการ ผอ.กศน.อำเภอออกคำสั่งที่ขัดหรือแย้งกับต้นสังกัดไม่ได้ ถ้าผู้ถูกย้าย/เปลี่ยนพื้นที่ ไม่มีความประสงค์ขอเปลี่ยน/ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้แจ้งไปที่ ผอ.สนง.กศน.จังหวัด และถ้าเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้แจ้งตรงไปที่ท่านเลขาธิการ กศน.
6. คืนวันที่ 25 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า ฉันเคยเป็น ครู กศน.อ.เมืองอุดรธานี ได้รับการย้ายโดยจังหวัดเกลี่ยตำแหน่งตอนเทอม 2/59 โดยสำนักงาน กศน.จังหวัดแจ้งว่า กศน.อำเภอเมืองอุดรธานี มีพนักงานราชการเกินตำแหน่ง ให้พนักงานราชการย้ายออกจากอำเภอ 25 คน โดยใช้หลักการย้ายจากคะแนนประเมินครู ทั้งที่ไม่ได้ประสงค์ที่จะขอย้ายพื้นที่ ซึ่งต้องย้ายออกไปต่างอำเภอ ผ.อ.จังหวัดแจ้งว่าจะมีหนังสือคำสั่งออกให้ ณ ปัจจุบันยังไม่มีหนังสือคำสั่งให้เลย ซึ่งการย้ายออกต่างอำเภอมีความลำบากมาก ทั้งภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ห่างไกลครอบครัว และสิ่งที่สำคัญคือเรื่องนักศึกษาซึ่งแต่ก่อนกว่าที่จะรวบรวมนักศึกษาได้มีครบตามจำนวนใช่เวลาหลายเทอม ในการเดินทางไปทำงานอย่างน้อยต้องวันละ 500 บาท ทั้งค่าน้ำมันค่าอยู่ค่ากิน อยู่ที่เดิมได้ทำงานที่ กศน.ตำบลใกล้บ้าน มีความรู้จักคุ้นเคยกับพื้นที่ มีนักศึกษามาเรียนมาปรึกษาตลอดทั่งที่ กศน.ตำบล และที่บ้าน
ฉันจึงอยากจะปรึกษาว่า ณ ปัจจุบัน ชื่อ และตำแหน่งของฉันยังอยู่ที่ กศน.เมืองอุดร เหมือนเดิมไหม
ส่วนคำสั่ง สป.ศธ.ที่ 489/51 ข้อ 1 นั้น ไม่ได้มอบอำนาจให้ ผอ.กศน.อำเภอ ย้าย/เปลี่ยนพื้นที่พนักงานราชการ ผอ.กศน.อำเภอออกคำสั่งที่ขัดหรือแย้งกับต้นสังกัดไม่ได้ ถ้าผู้ถูกย้าย/เปลี่ยนพื้นที่ ไม่มีความประสงค์ขอเปลี่ยน/ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้แจ้งไปที่ ผอ.สนง.กศน.จังหวัด และถ้าเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้แจ้งตรงไปที่ท่านเลขาธิการ กศน.
6. คืนวันที่ 25 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า ฉันเคยเป็น ครู กศน.อ.เมืองอุดรธานี ได้รับการย้ายโดยจังหวัดเกลี่ยตำแหน่งตอนเทอม 2/59 โดยสำนักงาน กศน.จังหวัดแจ้งว่า กศน.อำเภอเมืองอุดรธานี มีพนักงานราชการเกินตำแหน่ง ให้พนักงานราชการย้ายออกจากอำเภอ 25 คน โดยใช้หลักการย้ายจากคะแนนประเมินครู ทั้งที่ไม่ได้ประสงค์ที่จะขอย้ายพื้นที่ ซึ่งต้องย้ายออกไปต่างอำเภอ ผ.อ.จังหวัดแจ้งว่าจะมีหนังสือคำสั่งออกให้ ณ ปัจจุบันยังไม่มีหนังสือคำสั่งให้เลย ซึ่งการย้ายออกต่างอำเภอมีความลำบากมาก ทั้งภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ห่างไกลครอบครัว และสิ่งที่สำคัญคือเรื่องนักศึกษาซึ่งแต่ก่อนกว่าที่จะรวบรวมนักศึกษาได้มีครบตามจำนวนใช่เวลาหลายเทอม ในการเดินทางไปทำงานอย่างน้อยต้องวันละ 500 บาท ทั้งค่าน้ำมันค่าอยู่ค่ากิน อยู่ที่เดิมได้ทำงานที่ กศน.ตำบลใกล้บ้าน มีความรู้จักคุ้นเคยกับพื้นที่ มีนักศึกษามาเรียนมาปรึกษาตลอดทั่งที่ กศน.ตำบล และที่บ้าน
ฉันจึงอยากจะปรึกษาว่า ณ ปัจจุบัน ชื่อ และตำแหน่งของฉันยังอยู่ที่ กศน.เมืองอุดร เหมือนเดิมไหม
ผมตอบว่า ผมไม่มีข้อมูลหรอกว่าตำแหน่งใครอยู่ที่ใด..
ให้ดูในคำสั่งจ้าง(ต่อสัญญา) และ/หรือ คำสั่งเลื่อนค่าตอบแทน ณ วันที่ 1 ต.ค.
ก็น่าจะรู้ เพราะในคำสั่งจ้างจะระบุทั้งเลขที่ตำแหน่งและตำบล
ส่วนในคำสั่งเลื่อนค่าตอบแทน จะระบุเลขที่ตำแหน่งกับอำเภอ
ถ้าคำสั่งของจังหวัดใดไม่ระบุข้อมูลบางอย่างก็อาจแสดงว่ามีปัญหาบางอย่าง
ถ้าดูไม่รู้หรือไม่ได้คำสั่ง ก็ถามที่จังหวัดนั้น หรือที่ กจ.กศน. ข้อมูลทั้ง 2 แห่งจะต้องตรงกันเพราะปัจจุบันใช้ระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ DPIS แต่ กจ.กศน.อาจไม่มีเวลาว่างจะดูข้อมูลให้ ฉะนั้นอยู่จังหวัดไหนก็ถามที่จังหวัดนั้นก่อน
7. วันที่ 28 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า อยากทราบว่าการประดับแพรแถบ จำเป็นต้องติดไหมคะ แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าต้องติดแบบไหน หนูหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็ได้คำตอบแบบไม่ชัดเจนค่ะ (หนูเป็นบรรณารักษ์ปฏิบัติการ ค่ะ)
ถ้าดูไม่รู้หรือไม่ได้คำสั่ง ก็ถามที่จังหวัดนั้น หรือที่ กจ.กศน. ข้อมูลทั้ง 2 แห่งจะต้องตรงกันเพราะปัจจุบันใช้ระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ DPIS แต่ กจ.กศน.อาจไม่มีเวลาว่างจะดูข้อมูลให้ ฉะนั้นอยู่จังหวัดไหนก็ถามที่จังหวัดนั้นก่อน
7. วันที่ 28 ก.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า อยากทราบว่าการประดับแพรแถบ จำเป็นต้องติดไหมคะ แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าต้องติดแบบไหน หนูหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็ได้คำตอบแบบไม่ชัดเจนค่ะ (หนูเป็นบรรณารักษ์ปฏิบัติการ ค่ะ)
ผมตอบว่า แพรแถบย่อ "ไม่จำเป็น" ต้องประดับ
แต่ถ้าได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แล้ว "ควร" ประดับ
ดูเรื่องแพรแถบย่อของข้าราชการและพนักงานราชการ
ที่ผมเคยโพสต์ เช่นในข้อ 6 ที่ http://www.gotoknow.org/posts/310038