สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. วันอาสาฬหบูชา–วันเข้าพรรษา ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 8-9 ก.ค.60 ให้หยุดชดเชยในวันจันทร์ที่ 10 ก.ค.60 เพียงวันเดือน ตามมติ ครม.ปี 2547 ( ในภาพประกอบโพสต์นี้ ) ซึ่งถือเป็นวันหยุดชดเชยวันอาสาฬหบูชา ส่วนวันเข้าพรรษาไม่หยุดชดเชย
1. วันอาสาฬหบูชา–วันเข้าพรรษา ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 8-9 ก.ค.60 ให้หยุดชดเชยในวันจันทร์ที่ 10 ก.ค.60 เพียงวันเดือน ตามมติ ครม.ปี 2547 ( ในภาพประกอบโพสต์นี้ ) ซึ่งถือเป็นวันหยุดชดเชยวันอาสาฬหบูชา ส่วนวันเข้าพรรษาไม่หยุดชดเชย
2. ดึกวันอาทิตย์ที่
18 มิ.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า
เรื่องเทียบโอนของ นศ. หลังจากเด็กมาสมัครเรียนแล้ว
บางคนต้องไปตามวุฒิที่ไม่จบจากโรงเรียนเดิมมาทำเรื่องขอเทียบโอนกับเรานานกว่าจะได้
เพราะส่วนมากต้องรอ รร.เปิดจึงจะได้
ขอถามว่า มีระเบียบกำหนดไหมว่า
ให้ยื่นกี่วันหลังจากวันสมัครหรือปิดรับสมัคร หรือแล้วแต่อำเภอตกลงกัน
ผมตอบว่า คำถามนี้แสดงถึงการดำเนินการที่ผิดระเบียบนะ
เพราะตามระเบียบต้องลาออกจากโรงเรียนเดิม ได้ใบระเบียนที่ระบุว่า “ศึกษาต่อที่อื่น” มาก่อน
เราจึงจะรับสมัครขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาได้
มิฉะนั้นจะเป็นการเรียนสองแห่งเหลื่อมซ้อนกัน
( ในใบสมัครเรียนก็มีข้อความรับรองว่า “...ไม่อยู่ในระหว่างการศึกษาในระบบโรงเรียนทุกสังกัด
... หากตรวจสอบพบภายหลัง... ให้คัดชื่อออก
และหากตรวจสอบพบภายหลังที่จบหลักสูตรไปแล้ว .. ให้ .. ยกเลิกหลักฐานการศึกษา ...”
)
ส่วนเรื่องการเทียบโอนนั้น แล้วแต่อำเภอจะกำหนด ( เรื่องนี้ผมเคยโพสต์มากกว่า 3 ครั้งแล้ว ) ซึ่งไม่จำเป็นต้องยื่นในภาคเรียนแรกด้วย ที่กำหนดไว้ในหนังสือแนวทางการเทียบโอนฯ หน้า 4 ว่า “ควรดำเนินการในภาคเรียนแรกที่นักศึกษาขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา หรือขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานศึกษา” นั้น ก็เพราะ ถ้าไปเทียบโอนในภาคเรียนหลังอาจพบว่ามีบางวิชาเทียบโอนได้โดยไม่ต้องเรียน แต่ให้เรียนไปในภาคเรียนแรกแล้ว ฉะนั้น ปกติจะให้เทียบโอนก่อนแล้วจึงลงทะเบียนเรียนวิชาที่เหลือ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาลงทะเบียนเรียนวิชาที่เทียบโอนได้ แต่อย่างไรก็ตาม ภาคเรียนอื่น ๆ สถานศึกษาก็สามารถให้เทียบโอนได้
ส่วนเรื่องการเทียบโอนนั้น แล้วแต่อำเภอจะกำหนด ( เรื่องนี้ผมเคยโพสต์มากกว่า 3 ครั้งแล้ว ) ซึ่งไม่จำเป็นต้องยื่นในภาคเรียนแรกด้วย ที่กำหนดไว้ในหนังสือแนวทางการเทียบโอนฯ หน้า 4 ว่า “ควรดำเนินการในภาคเรียนแรกที่นักศึกษาขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา หรือขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานศึกษา” นั้น ก็เพราะ ถ้าไปเทียบโอนในภาคเรียนหลังอาจพบว่ามีบางวิชาเทียบโอนได้โดยไม่ต้องเรียน แต่ให้เรียนไปในภาคเรียนแรกแล้ว ฉะนั้น ปกติจะให้เทียบโอนก่อนแล้วจึงลงทะเบียนเรียนวิชาที่เหลือ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาลงทะเบียนเรียนวิชาที่เทียบโอนได้ แต่อย่างไรก็ตาม ภาคเรียนอื่น ๆ สถานศึกษาก็สามารถให้เทียบโอนได้
3. วันที่
19 มิ.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า กรณี นศ.กศน.หลักสูตรพื้นฐาน 2551 เข้าเรียน ภาคเรียนที่ 1/56 สอบ N-NET ในภาคเรียน 1/59 แต่ไม่จบ
และลงทะเบียนเรียนไม่ต่อเนื่อง จึงลาออกแล้วสมัครใหม่ในภาคเรียนที่ 2/59 สถานศึกษาเดิม ในหลักสูตรเดียวกัน โดยเทียบโอนผลการเรียนเดิม แต่ได้รหัส
นศ.ใหม่ จะต้องสอบ N-NET อีกไหม
เรื่องนี้ ( ผมถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้คำตอบว่า
วันที่ลาออก : วันที่ ที่ระบุในใบ รบ.ฉบับที่ลาออก เป็นวันที่หลังวันสอบ N-NET ) ผมจึงตอบว่า ไม่ต้องสอบ N-NET ใหม่ โดยบันทึกเรื่องการสอบ N-NET ของ นศ.ที่สมัครใหม่ รหัส 592... ... ว่าสอบ N-NET
ในภาคเรียนที่ 1/59
( ถึงแม้จะสอบก่อนที่จะสมัครขึ้นทะเบียนใหม่ ก็ไม่เป็นไร )
ในกรณีที่ย้ายสถานศึกษา
เนื่องจากในใบ รบ.ไม่ได้ระบุว่าสอบ N-NET ในภาคเรียนใด
แต่สถานศึกษาแห่งใหม่ต้องระบุในระบบทะเบียนว่าสอบ N-NET ในภาคเรียนใด
ฉะนั้น
สถานศึกษาเดิมควรทำหนังสือรับรองอีก 1 ฉบับ แนบใบ รบ.
โดยระบุว่าสอบ N-NET ในภาคเรียนใด
4. เย็นวันที่ 22 มิ.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า ในการที่เราจะพานักศึกษาไปศึกษาดูงานแล้วมีการค้างคืน ต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตผู้ปกครองรึเปล่า
4. เย็นวันที่ 22 มิ.ย.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า ในการที่เราจะพานักศึกษาไปศึกษาดูงานแล้วมีการค้างคืน ต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตผู้ปกครองรึเปล่า
ผมตอบว่า ตามระเบียบ/มาตรการ การพานักศึกษาไปนอกสถานศึกษา
ไม่ว่าจะค้างคืนหรือไม่ค้างคืน
ต้องทำหนังสือขออนุญาตทั้งผู้ปกครองและผู้บังคับบัญชา
ดู ระเบียบ/มาตรการ แบบฟอร์มหนังสือขออนุญาต ได้ที่
https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/studentGoStady.pdf
5. วันเดียวกัน ( 26 มิ.ย.60 ) มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า การสมัครสอบราชการ นอกจากโรคที่ต้องห้ามในการรับสมัครสอบแล้ว หากเรามีโรคประจำตัว เช่น โรคเกาต์ เบาหวานและอื่นๆ สามารถสมัครสอบได้หรือเปล่า และจำเป็นหรือไม่ที่ต้องระบุในการสมัคร หากเราไม่ระบุจะมีผลอย่างไร
ดู ระเบียบ/มาตรการ แบบฟอร์มหนังสือขออนุญาต ได้ที่
https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/studentGoStady.pdf
5. วันเดียวกัน ( 26 มิ.ย.60 ) มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า การสมัครสอบราชการ นอกจากโรคที่ต้องห้ามในการรับสมัครสอบแล้ว หากเรามีโรคประจำตัว เช่น โรคเกาต์ เบาหวานและอื่นๆ สามารถสมัครสอบได้หรือเปล่า และจำเป็นหรือไม่ที่ต้องระบุในการสมัคร หากเราไม่ระบุจะมีผลอย่างไร
ผมตอบว่า โรคไม่ติดต่อเหล่านี้
เมื่อไม่ใช่โรคต้องห้ามก็สมัครสอบได้ ไม่ต้องระบุในใบสมัคร
( ให้ดูในประกาศรับสมัคร สำหรับข้าราชการพลเรือน ต้องไม่เป็นโรคต้องห้ามตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ.2553 ซึ่งได้แก่
1) วัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ
2) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
3) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
4) โรคพิษสุราเรื้อรัง
5) โรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ ที่ ก.พ. กำหนด
( ให้ดูในประกาศรับสมัคร สำหรับข้าราชการพลเรือน ต้องไม่เป็นโรคต้องห้ามตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ.2553 ซึ่งได้แก่
1) วัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ
2) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
3) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
4) โรคพิษสุราเรื้อรัง
5) โรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ ที่ ก.พ. กำหนด
ส่วนข้าราชการครู
ต้องไม่เป็นโรคต้องห้ามตาม กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2549 ซึ่งได้แก่
1) โรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
2) วัณโรคในระยะติดต่อ
3) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
4) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
5) โรคพิษสุราเรื้อรัง )
6. วันที่ 29 มิ.ย.60 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊คผม ว่า ในกรณีที่ กศน.เขตจะจ้างครูประจำกลุ่ม เป็นข้าราชการสังกัดสำนักงาน กศน.(อยู่ศูนย์เทคโน) ไม่ได้เป็นข้าราชการครู สามารถเบิกค่าตอบแทนครูกลุ่มให้ได้ไหม เดิมเขาเป็นครู ศรช เพิ่งสอบเป็นนักวิชาการได้ เลยจะจ้างเขาเป็นครูกลุ่มต่อ กศน.เขตจะประชุมครูกลุ่มในวันอาทิตย์หลังสอนเสร็จ และน้องคนที่กล่าวถึงเขามีใบประกอบวิชาชีพครูแล้ว เลยอยากทราบว่าถ้าเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงาน กศน.แต่ไม่ใช่ครู เบิกเงินเป็นค่าครูกลุ่มได้ไหม
1) โรคเรื้อนในระยะติดต่อหรือในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
2) วัณโรคในระยะติดต่อ
3) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
4) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
5) โรคพิษสุราเรื้อรัง )
6. วันที่ 29 มิ.ย.60 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์แฟนเพจเฟซบุ๊คผม ว่า ในกรณีที่ กศน.เขตจะจ้างครูประจำกลุ่ม เป็นข้าราชการสังกัดสำนักงาน กศน.(อยู่ศูนย์เทคโน) ไม่ได้เป็นข้าราชการครู สามารถเบิกค่าตอบแทนครูกลุ่มให้ได้ไหม เดิมเขาเป็นครู ศรช เพิ่งสอบเป็นนักวิชาการได้ เลยจะจ้างเขาเป็นครูกลุ่มต่อ กศน.เขตจะประชุมครูกลุ่มในวันอาทิตย์หลังสอนเสร็จ และน้องคนที่กล่าวถึงเขามีใบประกอบวิชาชีพครูแล้ว เลยอยากทราบว่าถ้าเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงาน กศน.แต่ไม่ใช่ครู เบิกเงินเป็นค่าครูกลุ่มได้ไหม
ผมตอบว่า เขาจะมีเวลาให้หรือ.. งานของครูประจำกลุ่มไม่ใช่มีแต่การสอนกับการประชุม
จะมีงานอื่น ๆ ก่อนและหลังการสอน ( เช่น การทำแผนเตรียมการสอน การบันทึกหลังการสอน
การตรวจงาน ) การจัดทำเอกสารต่าง ๆ ฯลฯ
กศน.มีนโยบายให้ บุคลากรในสังกัด กศน. ไม่ว่าจะใช่ครูหรือไม่ใช่ครู สอน กศ.ขั้นพื้นฐานได้ เช่น บรรณารักษ์ หรือแม้แต่บุคลากรบน สนง.กศน.จังหวัด ให้สอนเพื่อให้มีสิทธิเรียน ป.บัณฑิต แต่ให้สอนโดยไม่เบิกค่าตอบแทน
7. ดึกวันที่ 3 ก.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า สัญญาจ้างเหมาบริการซึ่งทำครั้งละ 6 เดือน เหลือไม่ถึง 4 เดือนสามารถขอหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ได้หรือไม่ และถ้าไม่ได้ มีแนวทางแก้ไขหรือหลักเกณฑ์อย่างไร
กศน.มีนโยบายให้ บุคลากรในสังกัด กศน. ไม่ว่าจะใช่ครูหรือไม่ใช่ครู สอน กศ.ขั้นพื้นฐานได้ เช่น บรรณารักษ์ หรือแม้แต่บุคลากรบน สนง.กศน.จังหวัด ให้สอนเพื่อให้มีสิทธิเรียน ป.บัณฑิต แต่ให้สอนโดยไม่เบิกค่าตอบแทน
7. ดึกวันที่ 3 ก.ค.60 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า สัญญาจ้างเหมาบริการซึ่งทำครั้งละ 6 เดือน เหลือไม่ถึง 4 เดือนสามารถขอหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ได้หรือไม่ และถ้าไม่ได้ มีแนวทางแก้ไขหรือหลักเกณฑ์อย่างไร
เรื่องนี้ ท่าน อ.ณภัค ( คุรุสภา ) บอกว่า
ต้องเหลืออย่างน้อย 4
เดือน
( ฉะนั้น ให้รีบทำเรื่องเสนอขอหรือต่ออายุหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพฯโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ ทันทีที่ทำสัญญาจ้างเสร็จ ใครไม่เชื่อ/ไม่รู้/ไม่จำ ก็ตามใจ ถ้าตอนนี้เหลือไม่ถึง 4 เดือนแล้วก็คงต้องรอทำสัญญาใหม่ก่อนแล้วจึงรีบขอหรือต่ออายุ )
( ฉะนั้น ให้รีบทำเรื่องเสนอขอหรือต่ออายุหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพฯโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ ทันทีที่ทำสัญญาจ้างเสร็จ ใครไม่เชื่อ/ไม่รู้/ไม่จำ ก็ตามใจ ถ้าตอนนี้เหลือไม่ถึง 4 เดือนแล้วก็คงต้องรอทำสัญญาใหม่ก่อนแล้วจึงรีบขอหรือต่ออายุ )
สวัสดีค่ะอาจารย์ อยากขอรบกวนสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง N-NETค่ะ พอดีนักศึกษาเขาเคยสอบเอ็นเน็ทไปแล้วค่ะของระดับ ม.ปลาย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ตัวนักศึกษาเองยังเรียนไม่จบหลักสูตรของ ม.ต้น เลยค่ะ ก็เลยทำการยกเลิกผลการเรียนของ ม.ปลายไปแล้ว และให้นักศึกษาเรียน ม.ต้นใหม่ค่ะ ตอนนี้นักศึกษาเขาอยู่ ม.ปลายแล้ว อยากทราบว่าผลคะแนนเอ็นเน็ตที่เขาเคยสอบไปก่อนหน้านั้นไม่สามารถนำมาใช้ได้ใช้ได้ ใช่หรือไม่คะ แล้วทางแก้ไขจะต้องทำอย่างไรคะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
ตอบลบ