วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

1.การสอบซ่อม, 2.นโยบายปี 58/การปฏิบัติไม่ถูกต้องที่ผ่านมา, 3.นายทะเบียนเคร่งครัดไปไหม (หลักฐานการสมัคร), 4.การแยกเครื่องคอมฯ (โปรแกรม ITw ), 5.การเรียนแบบทางไกล, 6.ทำรายงานผู้สำเร็จการศึกษา 2 ชุด, 7.ห้ามซื้อ/จ้างวิธีพิเศษก่อนดำเนินการวิธีอื่น



สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้  7  เรื่อง ดังนี้

         1. คืนวันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง ระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการสอบซ่อม เช่น สอบซ่อมได้แค่ 3 คะแนน ทำไมเกรดยังขึ้นเป็น 1  ดังนี้

             ก.  หนังสือ คู่มือการดำเนินงานหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2555)ปกสีเลือดหมู  ที่ส่งให้ กศน.อำเภอทุกแห่ง เมื่อต้นเดือน ธ.ค.55
                  - หน้า 37 ข้อ 1.4  กำหนดว่า 
การประเมินซ่อม สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนที่
ไม่ผ่านการประเมินรายวิชา เข้ารับการประเมินซ่อม ด้วยวิธีการที่หลากหลาย  ( หมายถึงประเมินซ่อมได้หลายวิธี )  เช่น การทดสอบ หรือการมอบหมายให้ทำรายงานเพิ่มเติม หรือการจัดทำแฟ้มสะสมงาน หรือการเข้าร่วมกิจกรรม หรืออื่น ๆ  ตามที่สถานศึกษากำหนด  โดยให้ค่าระดับผลการเรียนไม่เกิน 1
                  - หน้า 44 ข้อ 6)  กำหนดว่า 
การประเมินซ่อม ผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินซ่อมคือ ผู้เรียนที่เข้าสอบปลายภาคเรียนแต่ผลการประเมิน
ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลรายวิชา  โดยให้ผู้เรียนเข้ารับการประเมินซ่อมตามวัน เวลา สถานที่ และวิธี ที่สถานศึกษาหรือต้นสังกัดกำหนด

             ข.  หนังสือราชการ สำนักงาน กศน. แจ้งเมื่อ ม.ค.52 กำหนดในข้อ 3 ว่า  การสอบซ่อม  ให้สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ แต่จะต้องมีกระบวนการและการดำเนินงานให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด โดยให้ดำเนินการซ่อมให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์

             สรุปคือ
             1)  สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนที่ไม่ผ่านการประเมินรายวิชา เข้ารับการประเมินซ่อม   การไม่ผ่านการประเมินรายวิชา ปัจจุบันมี 2 กรณี ได้แก่

                  - คะแนนรวมระหว่างภาคกับปลายภาคไม่ถึง 50 คะแนน  หรือ

                  - คะแนนปลายภาคไม่ถึง 12 คะแนน ( เฉพาะวิชาบังคับ  ส่วนวิชาเลือกสถานศึกษาจะกำหนดอย่างไรหรือไม่ก็ได้ )
                 
ให้ประเมินซ่อมเหมือนกันทั้ง 2 กรณีนี้  ( นศ.ที่ไม่เข้าสอบปลายภาค ต้องได้เกรด 0 ไม่มีสิทธิประเมินซ่อม )

             2)  การประเมินซ่อม ( ทั้งวิชาบังคับและวิชาเลือก ) ทำได้หลายวิธี เช่น การสอบซ่อม หรืออาจใช้วิธีอื่น ๆ ก็ได้ แต่ให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด คือ ถ้าเป็นรายวิชาเดียวกัน ให้ประเมินซ่อมด้วยวิธีเดียวกันทั้งจังหวัด ถ้าจะใช้วิธีสอบซ่อม ก็ใช้ข้อสอบฉบับเดียวกัน จะเป็นข้อสอบปรนัย หรืออัตนัย หรือผสม ก็ได้

             3)  การประเมินซ่อม เป็นการเปลี่ยนคะแนนปลายภาค  ( คะแนนปลายภาคเดิม ไม่ว่าจะได้เท่าไรก็ตัดทิ้งไปเลย ใช้คะแนนการประเมินซ่อมแทน )  ส่วนคะแนนระหว่างภาคจะเป็นไปตามเดิม การประเมินซ่อมจะมีคะแนนเต็ม 40 คะแนน ไม่จำเป็นต้องได้ 12 คะแนนอีกแล้ว แต่ต้องรวมกับคะแนนระหว่างภาคเดิมแล้วได้ 50 คะแนนขึ้นไป จึงจะได้เกรด 1  ถ้ารวมกับคะแนนระหว่างภาคเดิมแล้วได้ไม่ถึง 50 คะแนน ก็ได้เกรด 0
                  ( เมื่อไม่จำเป็นต้องได้ถึง 12 คะแนน อาจทำให้ นศ.ที่มีคะแนนระหว่างภาคถึง 50 คะแนนอยู่แล้ว ไม่ตั้งใจทำข้อสอบประเมินซ่อม เพราะได้ 0 คะแนนก็ผ่าน บางสถานศึกษาจึงกำหนดว่า การประเมินซ่อมต้องได้อย่างน้อย 5 คะแนน ซึ่งก็สามารถกำหนดได้ )   ถ้าได้คะแนนระหว่างภาค 30 คะแนน การประเมินซ่อมต้องได้อย่างน้อย 20 คะแนนจากคะแนนเต็ม 40 จึงจะได้เกรด 1 ถ้าได้ต่ำกว่า 20 คะแนนก็ได้เกรด 0

             4)  เคยมีผู้เสนอว่า ถ้าคะแนนระหว่างภาคต่ำ โอกาสที่ประเมินซ่อมแล้วผ่านจะมีน้อย ควรให้ทำโครงงานเพิ่มคะแนนระหว่างภาค โดยแก้คะแนนเก็บที่โปรแกรม IT ด้วย เพื่อให้รวมกับคะแนนซ่อมแล้วได้ 50 เป็นการช่วย นศ.อีกทางหนึ่ง   เรื่องนี้ ไม่มีระเบียบให้ซ่อมคะแนนระหว่างภาค ถ้าจะเพิ่มคะแนนระหว่างภาคก็เป็นเรื่องภายในสถานศึกษา ซึ่งที่ถูกที่ควรการให้ทำโครงงานหรือทำอะไรเพื่อจะได้เพิ่มคะแนนระหว่างภาค ต้องดำเนินการก่อนที่จะบันทึกคะแนนระหว่างภาค

             5)  มีผู้ถามว่า จะกำหนดให้ครู ให้คะแนนระหว่างภาคไม่ต่ำกว่า 38 คะแนน ได้หรือไม่   เรื่องนี้ คะแนนไม่ได้เป็นไปตามที่ครูให้ แต่คะแนนต้องเป็นไปตามผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน  ถ้าเรากำหนดเพื่อช่วยมากไป นศ.จะเห็นว่า ยังไง ๆ ก็จบทุกคนพร้อมกันหมด ส่งผลให้ มีนักศึกษามาพบกลุ่ม/ตั้งใจเรียนรู้ จำนวนลดลงทุกปี

             กรณีการคีย์คะแนนประเมินซ่อมในโปรแกรม
ITw
ถ้าคีย์คะแนนประเมินซ่อมแล้วไม่มีเกรดขึ้นมา ก็คือ เกรดเป็น 0 ( จะไม่ปรากฏในใบ รบ. ) โดยถ้าคะแนนระหว่างภาค รวมกับคะแนนสอบซ่อม ไม่ถึง 50 จะไม่มีเกรดขึ้นมา ( เกรดเป็น 0 ) ถ้าขาดสอบซ่อม ก็ไม่ต้องคีย์ข้อมูลใดลงไป ปล่อยว่างไว้ ซึ่งก็จะไม่มีเกรดขึ้นมา 

         2. วันเสาร์ที่ 18 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่องนโยบายและข้อตกลงเบื้องต้นในการดำเนินงานปี 2558 ( บรรยายโดย ท่านสุรพงษ์ จำจด รองเลขาธิการ ) และ เรื่องการปฏิบัติไม่ถูกต้องที่ผ่านมา ( บรรยายโดย นายสัจจา วงศาโรจน์ ผอ.กลุ่มการเจ้าหน้าที่ )  ซึ่ง สรุปโดยท่านรองฯ สุพรพรรณ นาคปานเอี่ยม  ดังนี้

             1)  จะทำงานภายใต้กิจกรรม/งานเดิม แต่จะใช้โครงสร้างของ กศน.เป็นตัวนำ ( ทุกหน่วยงานของ กศน.บูรณาการร่วมกัน กลุ่มศูนย์ฯจังหวัดมีบทบาท กศน.ตำบลเป็นฐานการจัดกิจกรรม )
             2)  ค่านิยม 12 ประการ สิ่งที่ต้องดำเนินงานต่อคือ
                  2.1  การจัดค่าย เพื่อปลูกฝังค่านิยมให้เป็นวิถีชีวิต อย่างน้อยอำเภอละ 1 ค่าย โดยใช้ งปม.อุดหนุน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
                  2.2  สอดแทรกค่านิยม 12 ประการในหลักสูตร กศ.ขั้นพื้นฐาน

                  2.3  ประกวดคำขวัญเรื่องค่านิยม
             3)  การพัฒนาคุณภาพในค่ายทหาร  กศน.จะจับมือกับหน่วยทหาร จัดสอน 1 ระดับ + 1 อาชีพ  จังหวัด/อำเภอ เติมสื่อการเรียนรู้ให้มากขึ้น
             4)  ส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่าน สร้างกิจกรรมให้มีสีสัน  ( นายกรัฐมนตรีอยากเห็นคนรักการอ่าน  กศน.จึงสานต่อแนวทางการสร้างสังคมแห่งการอ่าน  ส่งเสริม "บ้านหนังสืออัจฉริยะ" ให้เป็น "บ้านหนังสือของชุมชน" )
             5)  กศน.จังหวัดในเขตลุ่มเจ้าพระยา/ลุ่มน้ำแม่กลอง ต้องวางแผน/จัดกิจกรรมรองรับสถานการณ์เกี่ยวกับการปลูกพืชฤดูแล้ง
             6)  ใช้
ETV
ช่วยสอน  เน้นวิชายาก 3 วิชา คือภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์  ออกแบบการสอนให้ง่าย และถ่ายทอดให้ครูนำมาช่วยสอน โดยจะออกอากาศครั้งแรก วันที่ 9 พย.57 ( ประชุมชี้แจงสถานศึกษา/ผู้เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมก่อนออกอากาศ )
             7)  จะนำคูปองการศึกษา มาใช้ในการจัดการศึกษา กศน.ร่วมกับสถานประกอบการ
             8)  การจัดสรรเงินรายหัวที่เป็นงบปกติ  งบที่สถานศึกษาได้รับจัดสรรได้น้อยกว่ายอดรายหัวจริง เพราะต้องถูกแบ่งไปจัดสรรเป็นงบสำหรับผู้พิการ
             9)  การทำแผนปฎิบัติงาน ต้องมีข้อมูล และทำในลักษณะของแผนจุลภาคตั้งแต่ระดับตำบล/อำเภอ/จังหวัด
             10)  ศูนย์อาเซียนศึกษา ต้องทำแผนการจัด  หากเตรียมคนให้สามารถสื่อสารได้ในอาเซียนถือว่าประสบความสำเร็จ  จัดอาชีพที่รองรับการนำประชาชนเข้าสู่สังคมอาเซียน
             11)  การศึกษาทางไกล  ขอให้ช่วยกันรับนักศึกษาให้ได้ 100 คนต่อจังหวัด ทั่วประเทศ
             12)  การสร้างอุดมการณ์รักชาติ  จัดเวทีในเรื่องของอุดมการณ์รักชาติ ควบคู่ไปกับค่านิยม 12 ประการ
                   ( สำนักงาน กศน.จะจัดโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์รักชาติศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
                     ในส่วนของกลุ่มภาคกลาง/ตะวันออก/กทม. จะจัดในวันที่ 24 พย.2557 ผู้เข้าประชุมได้แก่ ผอ.จังหวัด/ผอ.อำเภอ ในเขตภาคกลาง ภาคตะวันออกและ กทม. โดยมอบหมายให้สำนักงาน กศน.กทม. รับผิดชอบในการจัดหาและเตรียมสถานที่ ขอให้เป็นสถานที่ในหน่วยงานราชการเพื่อความประหยัดและเป็นไปตามนโยบายของ รมต.ศธ. )
             13)  งบประมาณจัดสรรไป 2 ไตรมาส  เน้นย้ำเรื่องการเบิกจ่าย โดยไตรมาส 1 ต้องได้ 35 % ไตรมาส 2 ต้องได้ 23 % รวมแล้ว 2 ไตรมาส ต้องเบิกจ่ายได้ไม่น้อยกว่า 58% ของ งปม.ที่ได้รับจัดสรร
             14)  กลุ่มแผนงานจะทำแบบฟอร์มแผนฯให้ แผนต้องลงสู่ตำบล กศน.ตำบล ต้องมีแผนฯ


            
การปฏิบัติไม่ถูกต้องที่ผ่านมา ( บรรยายโดย นายสัจจา วงศาโรจน์ ผอ.กลุ่มการเจ้าหน้าที่ )

             1)  เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
                  1.1  จัดซื้อในลักษณะ แบ่งซื้อ/แบ่งจ้าง
                  1.2  ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ / เอกสารไม่ครบ / ไม่มีแผนการจัดซื้อจัดจ้าง
                  1.3  ตรวจรับงาน แต่งานไม่เป็นไปตามรายการ
                  1.4  การจัดซื้อจัดจ้างหากเกิน 5,000 บาท ต้องทำในระบบ
PO และหากทดรองจ่ายต้องยืมเงินของทางราชการไม่ควรใช้เงินส่วนตัวทดรองจ่าย
                  1.5  กำหนดราคากลางสูงกว่าราคาท้องตลาด หรือไม่มีการกำหนดราคากลาง  ( รมต.ศธ เน้นย้ำเรื่องความสุจริตโปร่งใส การจัดจ้างวิธีพิเศษไม่เหมาะสม ขอให้ดำเนินการตามระเบียบวิธีการทางพัสดุ  รถยนต์ของทางราชการต้องเก็บในสถานที่ของทางราชการ  การจัดหาสื่อให้มีราคากลาง ให้ยืมเรียนมิให้แจกฟรี  สื่อที่ใช้จัดการเรียนในกศน.ตำบล ขอให้หลากหลาย เหมาะสม )
                  1.6  ไม่ลงทะเบียนควบคุมทรัพย์สิน  หากไม่ลงทะเบียนแล้วทรัพย์สินสูญหายต้องหาผู้ชดใช้

             2. เบิกเงินโดยมิชอบ
                  2.1  เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการไม่ถูกต้อง
                  2.2  ฝึกอบรม  คนมาไม่ครบ แต่เบิกเงิน

             ขอให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด ดำเนินการด้วยความถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ


             เรื่องเกี่ยวกับการย้าย
             1)  ผอ./รอง ผอ.กศน.จังหวัด  คำสั่งย้ายจะออกภายในสัปดาห์หน้า จึงขอให้เตรียมมอบหมายงาน

             2)  ผอ.กศน.อำเภอ ย้ายภายในจังหวัดก่อน โดยแต่งตั้งคณะกรรมการและพิจารณาการย้ายให้เป็นธรรมตามหลักเกณฑ์ และดูเรื่องขนาดของสถานศึกษาด้วย

             3)  ขรก.ครูและบรรณารักษ์ จะพิจารณาดำเนินการต่อไป

             4)  จะสอบ บรรณารักษ์ และสอบ รอง ผอ.จังหวัด / ผอ.สถานศึกษา / รอง ผอ.สถานศึกษา อีก







         3. คืนวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง กศน.อ.โชคชัย เด่นไม่ค่อยเหมือนใคร แต่นายทะเบียนเคร่งครัดไปไหม ( ..ไม่หรอก )  ว่า

             กศน.อ.โชคชัย บรรยายการไปรับสมัคร นศ.ถึงบ้าน ว่า มาแล้ว ฤดูกาลลงพื้นที่รับสมัครนักศึกษา ทุกประเภท  10 ตำบล 128 หมู่บ้าน หมื่นหลังคาเรือน ใกล้-ไกล ทุรกันดาล เราไปหมดครับ  กระท่อมทุกหลัง บ้านทุกหลังคา  ทุกภาคเรียน ทุกปี เสาร์อาทิตย์ เราไม่หยุด
             จำได้ว่าปีก่อน จัดทีมออกไปกับรถประชาสัมพันธ์รับสมัครถึงบ้าน 3 สาย ลักษณะเดียวกับเซลขายประกันหรือเซลตัดแว่น ทุกสายมีเครื่องถ่ายเอกสารไปด้วย พร้อมที่จะถ่ายเอกสารประกอบใบสมัคร เพราะนายทะเบียนเคร่งครัดเรื่องหลักฐาน
             ปรากฏว่า มีสมาชิกกลุ่มครูนอกระบบบางคนวิจารณ์ว่า นายทะเบียนเคร่งครัดไปไหม เหมาะกับ กศน.ไหม...

             ผมเขียนว่า  มีบางแห่ง ไม่ขอดูใบวุฒิฉบับจริง อีกทั้งยังไม่ส่งสำเนาไปตรวจสอบวุฒิกับสถานศึกษาเดิมด้วย จึงเป็นแหล่งฟอกวุฒิ ( นำใบวุฒิ ม.ต้นปลอม มาเรียน 2 ปี ได้ใบวุฒิ ม.ปลายจริง  ปัจจุบันนี้ใบวุฒิปลอมมีมาก )

             แม้แต่การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในหน่วยงานทหาร . กศน.ก็ยังแจ้งเรื่องหลักฐาน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.57  ( ดูหนังสือแจ้งได้ที่  https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/timeout.pdf )  ว่า  ให้ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของหลักฐานก่อนรับสมัคร  แต่สำหรับทหารกองประจำการ ให้สถานศึกษาขยายเวลาในการส่งหลักฐาน ได้ถึง ก่อนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบปลายภาค 30 วัน แต่ต้องมีผู้บังคับหน่วยหรือผู้บังคับกองพันทำหนังสือขอผ่อนผัน  หากไม่สามารถนำหลักฐานมาส่งตามเวลาที่กำหนด ให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา  ( เพราะทหารเกณฑ์ต้องใช้เวลาติดต่อขอหลักฐานจากทางบ้านที่อยู่ไกล )

         4. ดึกวันเดียวกัน ( 19 ต.ค.57 ) ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่องการแยกเครื่องคอมฯ ( โปรแกรม ITw ) ว่า  ทำได้ ถ้าทำเป็น ไม่มีปัญหา..

             การแยกคอมพิวเตอร์ให้ครู กศน.ตำบล ต่างคนต่างบันทึกข้อมูลโปรแกรม ITw ตำบลละเครื่อง ต้อง กำหนดสิทธิในการใช้ระบบงานให้ กศน.ตำบล เข้าบางเมนูไม่ได้ เช่น แก้ไขคะแนนสอบไม่ได้
             มีขั้นตอนดังนี้
             1)  ควร
BACKUP ข้อมูลจากเครื่องอำเภอ ไป RESTORE ในเครื่องตำบล เพื่อจะได้ไม่ต้องไปกำหนดในตารางรหัสใหม่ ซึ่งจะมีปัญหาถ้ากำหนดไม่ตรงกันเช่น กลุ่มเดียวกันแต่กำหนดรหัสกลุ่มหรือชื่อกลุ่มต่างกัน
                  ก่อน
BACKUP ควรเปลี่ยนรหัสผ่านของเครื่องแม่ที่อำเภอ ( เครื่องที่นายทะเบียนมีสิทธิ์แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลได้ทุกเรื่อง ) เป็นรหัสผ่านที่ไม่มีใครรู้ แล้วกำหนดรหัสผู้ใช้-รหัสผ่านของครู กศน.ตำบล ให้แตกต่างจากรหัสผู้ใช้-รหัสผ่านของนายทะเบียน ซึ่งเราสามารถกำหนดรหัสผู้ใช้-รหัสผ่านให้กี่คนก็ได้ อาจจะให้รหัสต่างกันทุกตำบล หรือทุกตำบลใช้รหัสเดียวกันก็ได้ โดยกำหนดสิทธิ์ให้ครู กศน.ตำบลสามารถเข้าเมนูแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลได้เพียงบางอย่าง เช่น เพิ่มประวัติ ลงทะเบียนเรียน

                  - กำหนดรหัสผู้ใช้-รหัสผ่าน ได้ที่เมนู 4 – A – 1 ( บำรุงรักษาระบบ ความปลอดภัยของระบบ กำหนดผู้ใช้งานระบบ )

                  - เมื่อกำหนดรหัสผู้ใช้-รหัสผ่านแล้ว  กำหนดสิทธิในการใช้ระบบงานของแต่รหัส ได้ที่เมนู 4 – A – 3 ( บำรุงรักษาระบบ ความปลอดภัยของระบบ กำหนดสิทธิในการใช้งานระบบ )

                  ตอนที่ BACKUP ข้อมูล ให้ติ๊กให้มีเครื่องหมายถูกหน้า "ข้อมูลผู้ใช้และสิทธิการใช้งาน" (ในหัวข้อ "ประเภทข้อมูล") ด้วย เมื่อ RESTORE ลงเครื่องตำบลก็จะได้ user และ password ทั้งหมดมาด้วย

                  2)  การคีย์ข้อมูลในเครื่องแต่ละตำบล  ถ้าเป็นนักศึกษาเก่าที่มีชื่ออยู่ในโปรแกรมแล้ว แต่ละตำบลก็คีย์ข้อมูลในเครื่องตำบลตามปกติ เพียงแต่ ตอนที่นำข้อมูลออกจากเครื่องฯตำบล ไปรวมที่เครื่องฯอำเภอ ต้อง EXPORT ออกจากแต่ละเครื่อง ทางเมนู 4-3 ( บำรุงรักษาระบบ - นำข้อมูลออก ) แล้วนำข้อมูลไป IMPORT รวมในเครื่องของอำเภอ ทางเมนู 4-7 ( บำรุงรักษาระบบ - นำเข้าข้อมูล ) เท่านั้นเอง  ( ไม่ใช่ BACKUP ไป RESTORE )  การ IMPORT สามารถเลือกได้ว่าจะนำข้อมูลเข้าเครื่องอำเภอเฉพาะข้อมูลใด

                  3)  แต่ถ้าเป็นนักศึกษาใหม่  เมื่อบันทึกข้อมูลเพิ่มประวัติแล้ว ต้องเปลี่ยนรหัสนักศึกษาในแต่ละเครื่องก่อนจะ EXPORT มิฉะนั้นรหัสนักศึกษาของแต่ละตำบลจะซ้ำกัน เพราะแต่ละตำบล รหัสนักศึกษาใหม่จะเริ่มที่รหัส 1 ทุกตำบล   วิธีเปลี่ยนก็ไม่ยาก สั่งเปลี่ยนที่เดียวเป็นช่วงเลย โดยใช้เมนู 1-1-6 ( ขั้นตอนการดำเนินงาน -บันทึกประวัตินักศึกษา - เปลี่ยนรหัสนักศึกษา ) เช่น ตำบลที่ 1 มี 18 คน (ตำบลที่ 1 ไม่ต้องเปลี่ยน ) ก็เปลี่ยนรหัสนักศึกษาตำบลที่ 2 ให้เริ่มต้นที่รหัส 19 และเปลี่ยนตำบลที่ 3, 4, 5, ... ไปตามลำดับ ( เปลี่ยนรหัสได้เฉพาะคนที่ยังไม่ได้สั่งให้โปรแกรมพิมพ์บัตรนักศึกษานะ ฉะนั้นต้องระวังอย่าพิมพ์บัตรฯก่อนเปลี่ยน )  เสร็จแล้วก็ EXPORT ไป IMPORT เช่นเดียวกัน ( ไม่ใช่ BACKUP ไป RESTORE )

                  ( การแยกคอมพิวเตอร์นี้ ใช้ในกรณีที่นักศึกษาทั้งอำเภอมีมาก คอมฯเครื่องเดียวทำไม่ทัน ส่วนจะกำหนดให้ กศน.ตำบลคีย์ข้อมูลอะไรได้บ้าง ก็แล้วแต่นายทะเบียนและ ผอ. จะกำหนดสิทธิ์ในการใช้ระบบงาน )

         5. ดึกวันที่ 21 ต.ค.57 Sirin Sue ถามผ่านอินบ็อกซ์ผม ว่า  การเรียนแบบทางไกล เวลาที่จะปฐมนิเทศ-ปัจฉิม เวลาสอบ การทำกิจกรรม กพช. สถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ คือที่ไหน

             ผมตอบในเบื้องต้นว่า
             - การปฐมนิเทศ  ที่ผ่านมา เขาจะส่งแผ่น CD ปฐมนิเทศไปให้ดูที่บ้าน แต่ส่วนกลางก็จัดปฐมมนิเทศ ใครจะเข้าไปหรือไม่ก็ได้
             - การประเมินผลระหว่างภาค  สอบด้วยข้อสอบอัตนัย ทำที่บ้าน ด้วยลายมือ ส่งทางไปรษณีย์
             - กพช.+ปัจฉิมนิเทศ  ในส่วนของ กพช.นั้น ต่างคนทำกันเอง หรือใครจะทำร่วมกันก็ได้ แล้วรายงานทางไปรษณีย์  80 ชม. และมีการสัมมนาก่อนจบซึ่งเป็นทั้งการปัจฉิมนิเทศและการทำ กพช.อีก 20 ชั่วโมง การสัมมนานี้เพื่อการประเมินคุณธรรมด้วย  โดย 20 ชม.นี้ทุกคนต้องเข้าร่วม แต่จะจัดที่ใดคงต้องดูจำนวน นศ.อีกครั้ง  ส่วน กพช.อีก 100 ชม.นั้น จะให้กับผู้ที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดหลักสูตรครบถ้วนทุกขั้นตอน
             - การสอบปลายภาค  จังหวัดเป็นผู้จัดสอบ
             - ปฏิทินการเรียนแบบทางไกล  https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/calenderfared.pdf
             - คู่มือนักศึกษา กศน.แบบทางไกล 
https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/faredSTmanual.pdf
             - ไฟล์ป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ 
https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/JPG/faredPBB.jpg

             สอบถามข้อมูลรายละเอียด ได้ที่เฟซบุ๊ค สถาบัน การศึกษาทางไกล

         6. คืนวันที่ 22 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่องการทำรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (กศน.3) ซึ่งต้องใช้แบบฟอร์มควบคุมและบังคับแบบ ( ซื้อจากองค์การค้าของคุรุสภา ) ว่า 
             ต้องจัดทำ 2 ชุด ใช้แบบฟอร์มที่ซื้อจากองค์การค้าของคุรุสภาทั้ง 2 ชุด เพื่อเก็บไว้ที่สถานศึกษา 1 ชุด ส่ง สนง.กศน.จ./กทม. 1 ชุด


         7. วันปิยะ 23 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่องห้ามซื้อ/จ้างโดยวิธีพิเศษก่อนดำเนินการด้วยวิธีอื่นๆ ว่า
             การจัดหาแบบเรียนและสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ  ห้าม ซื้อ/จ้างโดยวิธีพิเศษก่อนดำเนินการด้วยวิธีอื่นๆ   และถ้ามีแบบเรียน/สื่อมากพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจัดหามาเพิ่มอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย