สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. วันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง คุณสมบัติของผู้สมัครสอบเป็นข้าราชการครู กับ ข้าราชการบรรณารักษ์ ดังนี้
1. วันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง คุณสมบัติของผู้สมัครสอบเป็นข้าราชการครู กับ ข้าราชการบรรณารักษ์ ดังนี้
ถ้าจะสอบเป็นข้าราชการครูต้องมีคุณสมบัติหลัก 2 ข้อ คือ
1) มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ.รับรองแล้ว
2) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือ ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน(ไม่ใช่หนังสืออนุญาตประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู)
เชื่อหรือไม่ คุณวุฒิทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ.รับรองแล้ว ปัจจุบันมีมากกว่า 19,000 คุณวุฒิ !
1) มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ.รับรองแล้ว
2) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือ ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน(ไม่ใช่หนังสืออนุญาตประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู)
เชื่อหรือไม่ คุณวุฒิทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ.รับรองแล้ว ปัจจุบันมีมากกว่า 19,000 คุณวุฒิ !
ในขณะที่ ถ้าจะสอบเป็นข้าราชการบรรณารักษ์
ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทาง บรรณารักษศาสตร์ สารนิเทศศาสตร์
หรือสารสนเทศศาสตร์ เท่านั้น
ที่ผ่านมา ผู้จะสอบเป็นข้าราชการบรรณารักษ์ มีเพียงวิธีเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยให้จบหลักสูตรปริญญาตรีทางบรรณารักษศาสตร์ สารนิเทศศาสตร์ หรือสารสนเทศศาสตร์ หรือ ให้ได้หน่วยกิตวิชาบรรณารักษ์ศาสตร์ตามที่กำหนด เท่านั้น
ที่ผ่านมา ผู้จะสอบเป็นข้าราชการบรรณารักษ์ มีเพียงวิธีเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยให้จบหลักสูตรปริญญาตรีทางบรรณารักษศาสตร์ สารนิเทศศาสตร์ หรือสารสนเทศศาสตร์ หรือ ให้ได้หน่วยกิตวิชาบรรณารักษ์ศาสตร์ตามที่กำหนด เท่านั้น
แต่.. ตอนนี้ เรากำลังหาวิธีอื่น
แทนการต้องเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยหลักสูตรทางบรรณารักษศาสตร์สารนิเทศศาสตร์หรือสารสนเทศศาสตร์
คือ สพร.กศน.จะทำหลักสูตรให้บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการที่ไม่จบวุฒิบรรณรักษศาสตรฯ และมีอายุงานครบ 3 ปี เข้าอบรม 300 ชัวโมง และฝึกงาน 100 ชัวโมง เสนอให้ ก.พ.พิจารณา
ถ้า ก.พ.อนุมัติ ก็จะง่ายกว่าเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยให้จบหลักสูตรปริญญาตรีทางบรรณารักษศาสตร์ฯ
( สำหรับคุณวุฒิทางการศึกษาซึ่งเป็นคุณสมบัติการสอบเป็นข้าราชการครู ที่ ก.ค.ศ.รับรองแล้วมากกว่า 19,000 คุณวุฒินั้น มีวุฒิอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ในเว็บ ก.ค.ศ. ที่ http://qualification.otepc.go.th/menu.php โดย
- ชี้ที่ "คุณวุฒิ” คลิกที่ “รับรองก่อน 6 ก.ย.54"
- ใส่ชื่อมหาวิทยาลัยในช่อง ค้นหา
- คลิกที่ปุ่มค้นหา (รูปแว่นขยาย) ก็จะโชว์วุฒิที่ ก.ค.ศ.รับรอง ( อาจมีหลายหน้า ให้คลิกดูทีละหน้า ) ถ้าดูทุกหน้าแล้วไม่มีวุฒิที่หา ให้กลับออกมาแล้วคลิกเข้าไปหาที่ "คุณวุฒิ รับรองหลัง 6 ก.ย.54" ด้วย ถ้าไม่มีอีก แสดงว่าวุฒินั้นไม่ได้รับการรับรอง ถ้าไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถาม ก.ค.ศ.
2. เช้าวันที่ 30 ก.ย.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง ว่า
- SAR เป็นการประเมินภายใน ใช้ค่าขีดจำกัดล่างของการสอบปลายภาค และเปรียบเทียบ 2 ปีงบประมาณ ( ถ้าเป็นการประเมินภายนอกโดย สมศ. จะใช้ค่าขีดจำกัดล่างของ N-NET และเปรียบเทียบ 2 ปีการศึกษา )
- ทำ SAR ปีงบประมาณ 2557 ต้องเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างปีงบประมาณ 2557 (ภาค 2/56 และ 1/57 ) กับ ปีงบประมาณ 2556 ( ภาค 2/55 และ 1/56 )
- เข้าโปรแกรม ITw ไปที่เมนู 1 - A - 1 - 4 ( ขั้นตอนการดำเนินงาน - รายงาน - รายงานผลการเรียน... - รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน )
คือ สพร.กศน.จะทำหลักสูตรให้บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการที่ไม่จบวุฒิบรรณรักษศาสตรฯ และมีอายุงานครบ 3 ปี เข้าอบรม 300 ชัวโมง และฝึกงาน 100 ชัวโมง เสนอให้ ก.พ.พิจารณา
ถ้า ก.พ.อนุมัติ ก็จะง่ายกว่าเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยให้จบหลักสูตรปริญญาตรีทางบรรณารักษศาสตร์ฯ
( สำหรับคุณวุฒิทางการศึกษาซึ่งเป็นคุณสมบัติการสอบเป็นข้าราชการครู ที่ ก.ค.ศ.รับรองแล้วมากกว่า 19,000 คุณวุฒินั้น มีวุฒิอะไรบ้าง ตรวจสอบได้ในเว็บ ก.ค.ศ. ที่ http://qualification.otepc.go.th/menu.php โดย
- ชี้ที่ "คุณวุฒิ” คลิกที่ “รับรองก่อน 6 ก.ย.54"
- ใส่ชื่อมหาวิทยาลัยในช่อง ค้นหา
- คลิกที่ปุ่มค้นหา (รูปแว่นขยาย) ก็จะโชว์วุฒิที่ ก.ค.ศ.รับรอง ( อาจมีหลายหน้า ให้คลิกดูทีละหน้า ) ถ้าดูทุกหน้าแล้วไม่มีวุฒิที่หา ให้กลับออกมาแล้วคลิกเข้าไปหาที่ "คุณวุฒิ รับรองหลัง 6 ก.ย.54" ด้วย ถ้าไม่มีอีก แสดงว่าวุฒินั้นไม่ได้รับการรับรอง ถ้าไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถาม ก.ค.ศ.
2. เช้าวันที่ 30 ก.ย.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง ว่า
- SAR เป็นการประเมินภายใน ใช้ค่าขีดจำกัดล่างของการสอบปลายภาค และเปรียบเทียบ 2 ปีงบประมาณ ( ถ้าเป็นการประเมินภายนอกโดย สมศ. จะใช้ค่าขีดจำกัดล่างของ N-NET และเปรียบเทียบ 2 ปีการศึกษา )
- ทำ SAR ปีงบประมาณ 2557 ต้องเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างปีงบประมาณ 2557 (ภาค 2/56 และ 1/57 ) กับ ปีงบประมาณ 2556 ( ภาค 2/55 และ 1/56 )
- เข้าโปรแกรม ITw ไปที่เมนู 1 - A - 1 - 4 ( ขั้นตอนการดำเนินงาน - รายงาน - รายงานผลการเรียน... - รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน )
- จะเห็นว่าโปรแกรมกรอกค่าขีดจำกีดล่างของภาค
2/55 กับ 1/56 ไว้ให้แล้ว
ให้เราเลือกปีงบประมาณ 2557 แล้วกรอกค่าขีดจำกัดล่างภาค 2/56,
1/57 เอง โดยใช้ข้อมูลที่ http://www.pattanadownload.com/download/g.2/g2.23.rar
(ค่าขีดจำกัดล่างคือค่า Y ใน Sheet1 ทศนิยมกรอกเพียง 2 ตำแหน่ง ตัดตำแหน่งที่ 3 ทิ้งไป ไม่ต้องปัด กรอกเสร็จแล้วอย่าลืมคลิกที่ "บันทึกค่าขีดจำกัดล่าง")
แค่ เพียงเราคลิกที่ "ตัวอย่างก่อนพิมพ์" หรือ "พิมพ์" เท่านั้น โปรแกรมก็จะคำนวณให้เสร็จเรียบร้อยเลย ในชั่วพริบตา ( ถ้าลงคะแนนสอบปลายภาคไว้ครบถ้วนแล้ว โปรแกรมบวกลบคูณหารให้เอง )
- ในกรณีที่ค่าขีดจำกัดล่างบางภาคเรียนยังไม่ออก ( เช่น ของภาค 1/57 คงจะออกภายในเดือน ต.ค.57 ) ถ้าต้องรีบส่ง SAR ให้ปล่อยว่างภาคเรียนนี้ไว้ก่อน คำนวณเท่าที่มีไปก่อน แต่เมื่อภายหลังได้ค่าขีดจำกัดล่างแล้ว ต้องเข้ามากรอกในโปรแกรม คำนวณใหม่ ปรับแก้ SAR ในส่วนนี้ใหม่
3. คืนวันเดียวกัน ( 30 ก.ย.) Yangpara Nara ถามในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า ถามอาจารย์เรื่องกรอบโครงสร้างการบริหารงานของ กศน.อำเภอที่ถูกต้อง พอดีโครงสร้างฯที่ทำและแนบไว้ในแผนปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณนั้น หลายคนที่ทำงานบอกว่ายังไม่ถูกต้อง
(ค่าขีดจำกัดล่างคือค่า Y ใน Sheet1 ทศนิยมกรอกเพียง 2 ตำแหน่ง ตัดตำแหน่งที่ 3 ทิ้งไป ไม่ต้องปัด กรอกเสร็จแล้วอย่าลืมคลิกที่ "บันทึกค่าขีดจำกัดล่าง")
แค่ เพียงเราคลิกที่ "ตัวอย่างก่อนพิมพ์" หรือ "พิมพ์" เท่านั้น โปรแกรมก็จะคำนวณให้เสร็จเรียบร้อยเลย ในชั่วพริบตา ( ถ้าลงคะแนนสอบปลายภาคไว้ครบถ้วนแล้ว โปรแกรมบวกลบคูณหารให้เอง )
- ในกรณีที่ค่าขีดจำกัดล่างบางภาคเรียนยังไม่ออก ( เช่น ของภาค 1/57 คงจะออกภายในเดือน ต.ค.57 ) ถ้าต้องรีบส่ง SAR ให้ปล่อยว่างภาคเรียนนี้ไว้ก่อน คำนวณเท่าที่มีไปก่อน แต่เมื่อภายหลังได้ค่าขีดจำกัดล่างแล้ว ต้องเข้ามากรอกในโปรแกรม คำนวณใหม่ ปรับแก้ SAR ในส่วนนี้ใหม่
3. คืนวันเดียวกัน ( 30 ก.ย.) Yangpara Nara ถามในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า ถามอาจารย์เรื่องกรอบโครงสร้างการบริหารงานของ กศน.อำเภอที่ถูกต้อง พอดีโครงสร้างฯที่ทำและแนบไว้ในแผนปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณนั้น หลายคนที่ทำงานบอกว่ายังไม่ถูกต้อง
ผมตอบว่า มีแต่การกำหนด
“กรอบอัตรากำลัง”
ขรก.ครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ซึ่ง
กำหนดเพียงว่า อัตรากำลังแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มอำนวยการ
กลุ่มส่งเสริมปฏิบัติการ และ กลุ่มภาคีเครือข่ายและกิจการพิเศษ ( บรรณารักษ์อยู่ในกลุ่มส่งเสริมปฏิบัติการ
) ดูได้ที่
- จังหวัด-อำเภอเล็กมาก-เล็ก (
แผนภูมิกรอบทุกขนาดอยู่ในไฟล์แรกนี้ ) http://ahph9thi.gotoknow.org/assets/media/files/000/815/502/original_framework1.PDF
- อำเภอกลาง-ใหญ่-ใหญ่พิเศษ http://ahph9thi.gotoknow.org/assets/media/files/000/815/503/original_framework2.PDF
ส่วน “กรอบโครงสร้างการบริหาร”
ที่ว่าแต่ละกลุ่มมีภาระงานและบทบาทหน้าที่อะไรบ้าง นั้น สามารถปรับโครงสร้างได้ตามบริบทของแต่ละแห่งและปรับตามบทบาทภาระหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงตามนโยบาย
4. วันที่ 2 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง การทำสัญญาจ้าง-การค้ำประกัน-การติดอากรแสตมป์ ว่า
( สำนักงาน กพ. ตอบว่า ถ้าส่วนราชการทำสัญญาจ้างกรณีไม่ต้องติดอากรแสตมป์ หากให้ปิดอากรแสตมป์ไปแล้ว ส่วนราชการจะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์คืนให้ )
4. วันที่ 2 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง การทำสัญญาจ้าง-การค้ำประกัน-การติดอากรแสตมป์ ว่า
( สำนักงาน กพ. ตอบว่า ถ้าส่วนราชการทำสัญญาจ้างกรณีไม่ต้องติดอากรแสตมป์ หากให้ปิดอากรแสตมป์ไปแล้ว ส่วนราชการจะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์คืนให้ )
การจ้างแต่ละประเภท
มีระเบียบต่างกันในเรื่องการทำสัญญา-การค้ำประกัน-การติดอากรแสตมป์
ต้องรู้ก่อนว่า การจ้างนั้นเป็นประเภทใด เช่น
ก. การจ้างบุคลากรของส่วนราชการ เช่น ครู ศรช., พนักงานราชการ
ข. การจ้างเหมาบริการบุคคลภายนอกตามระเบียบพัสดุ เช่น บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ก. การจ้างบุคลากรของส่วนราชการ เช่น ครู ศรช., พนักงานราชการ
ข. การจ้างเหมาบริการบุคคลภายนอกตามระเบียบพัสดุ เช่น บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย
1) การจ้างพนักงานราชการ
ไม่ต้องมีการค้ำประกัน เพราะมี "วินัย" ควบคุม ลักษณะเดียวกับข้าราชการ/ลูกจ้างประจำที่ไม่ต้องมีการค้ำประกัน
- การจ้างครู ศรช. มีการ "ค้ำประกันการกระทำให้เกิดความเสียหาย" โดยจะใช้บุคคล(ตำแหน่ง) หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้
- การจ้างเหมาบริการตามระเบียบพัสดุ เช่น บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้ามีการทำสัญญาจ้าง ต้องมีหลักประกันสัญญา 5 % ตามระเบียบพัสดุกำหนดให้ใช้หลักทรัพย์เป็น "หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา" ไม่มีระเบียบให้ใช้บุคคลเป็นหลักประกัน
- การจ้างครู ศรช. มีการ "ค้ำประกันการกระทำให้เกิดความเสียหาย" โดยจะใช้บุคคล(ตำแหน่ง) หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้
- การจ้างเหมาบริการตามระเบียบพัสดุ เช่น บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้ามีการทำสัญญาจ้าง ต้องมีหลักประกันสัญญา 5 % ตามระเบียบพัสดุกำหนดให้ใช้หลักทรัพย์เป็น "หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา" ไม่มีระเบียบให้ใช้บุคคลเป็นหลักประกัน
2) การจ้างเหมาบริการตามระเบียบพัสดุ เช่น
บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ถ้าวงเงินเกิน 100,000 บาท ต้องใช้วิธีสอบราคา
หรือวิธีพิเศษ ตามแต่เหตุผล ถ้าใช้วิธีสอบราคาต้องทำสัญญาจ้าง แต่ถ้าใช้วิธีพิเศษจะทำสัญญาหรือใช้ใบสั่งจ้าง
ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จ้าง ( ถ้าเป็นการจ้างที่อาจเกิดความเสียหาย เช่นจ้างพนักงานขับรถ
พนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับการเงิน ควรทำสัญญาเพื่อให้มีหลักประกัน ถ้าไม่ทำสัญญาและเกิดความเสียหายขึ้น
หักเงินประกันไม่ได้และถ้าไม่สามารถเรียกชดใช้ค่าเสียหายได้สำเร็จ ผู้จ้างต้องรับผิดชอบความเสียหายนั้นเอง ) ถ้าทำสัญญาต้องมีหลักประกันสัญญา
ถ้าใช้ใบสั่งจ้างก็ไม่ต้องมีหลักประกันสัญญา แต่ก็ยังต้องติดอากรแสตมป์ สามารถทำสัญญา 12 เดือนเลยเพราะปีนี้คงไม่ได้ปรับเปลี่ยนค่าจ้างอีก
3) กรณีที่มีการประกันสัญญา เช่น
ครู ศรช. และการจ้างตามระเบียบพัสดุ ต้องระบุเรื่องการประกันนั้นไว้ในตัวสัญญาด้วย
การประกันจึงจะมีผล ( ทุกอย่างที่แนบท้ายสัญญาต้องระบุไว้ในตัวสัญญา
) เช่น สัญญาจ้างครู ศรช. ระบุไว้ในตัวสัญญาว่า
"ข้อ 10 เพื่อเป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญานี้ ลูกจ้างได้จัดให้มีผู้ค้ำประกันการชดใช้ค่าเสียหายอันอาจเกิดขึ้นจากการกระทำของลูกจ้างตามที่ระบุไว้ในข้อ 4. และ ข้อ 9. ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันที่แนบท้ายสัญญานี้"
( สัญญาพนักงานราชการที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการกำหนดตามประกาศที่ https://dl.dropbox.com/u/109014048/Contract.pdf ไม่มีข้อนี้ ซึ่งส่วนราชการต่าง ๆ ต้องใช้แบบสัญญาตามที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการกำหนด นั่นคือ พนักงานราชการไม่ต้องมีการค้ำประกันสัญญา )
"ข้อ 10 เพื่อเป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญานี้ ลูกจ้างได้จัดให้มีผู้ค้ำประกันการชดใช้ค่าเสียหายอันอาจเกิดขึ้นจากการกระทำของลูกจ้างตามที่ระบุไว้ในข้อ 4. และ ข้อ 9. ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันที่แนบท้ายสัญญานี้"
( สัญญาพนักงานราชการที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการกำหนดตามประกาศที่ https://dl.dropbox.com/u/109014048/Contract.pdf ไม่มีข้อนี้ ซึ่งส่วนราชการต่าง ๆ ต้องใช้แบบสัญญาตามที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการกำหนด นั่นคือ พนักงานราชการไม่ต้องมีการค้ำประกันสัญญา )
4) การจ้างบุคลากรของส่วนราชการ
เช่น ครู ศรช., พนักงานราชการ ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ แต่การจ้างเหมาบริการบุคคลภายนอกตามระเบียบพัสดุ
เช่น บรรณารักษ์จ้างเหมาบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ต้องปิดอากรแสตมป์ในสัญญจ้างหรือใบสั่งจ้าง
( การ “ซื้อ” ตามระเบียบพัสดุ ก็ไม่ต้องติดอากรแสตมป์ มีแต่การจ้างตามระเบียบพัสดุที่ต้องติดอากรแสตมป์ เช่นเรื่องหนังสือเรียน ต้องดูว่าเป็นการซื้อหนังสือเรียน หรือจ้างพิมพ์หนังสือเรียน บางอำเภอทำสัญญาซื้อหนังสือที่เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอกชนก็ไม่ต้องติดอากรฯ บางอำเภอทำสัญญาจ้างพิมพ์ตามต้นฉบับของที่กำหนดก็ต้องติดอากรแสตมป์ )
ถ้าไม่เข้าตาม http://www.rd.go.th/publish/6162.0.html นี้ ไม่ต้องติดอากร ( การจ้างเหมาบริการตามระเบียบพัสดุ เข้าข้อ 4. จ้างทำของ )
( การ “ซื้อ” ตามระเบียบพัสดุ ก็ไม่ต้องติดอากรแสตมป์ มีแต่การจ้างตามระเบียบพัสดุที่ต้องติดอากรแสตมป์ เช่นเรื่องหนังสือเรียน ต้องดูว่าเป็นการซื้อหนังสือเรียน หรือจ้างพิมพ์หนังสือเรียน บางอำเภอทำสัญญาซื้อหนังสือที่เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอกชนก็ไม่ต้องติดอากรฯ บางอำเภอทำสัญญาจ้างพิมพ์ตามต้นฉบับของที่กำหนดก็ต้องติดอากรแสตมป์ )
ถ้าไม่เข้าตาม http://www.rd.go.th/publish/6162.0.html นี้ ไม่ต้องติดอากร ( การจ้างเหมาบริการตามระเบียบพัสดุ เข้าข้อ 4. จ้างทำของ )
5) ในกรณีที่ส่วนราชการทำสัญญาจ้างพนักงานราชการ
โดยเรียกให้ปิดอากรแสตมป์ (ซึ่งไม่ต้องปิดอากรแสตมป์) ส่วนราชการจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อเยียวยาและบรรเทาความเสียหาย
ให้แก่พนักงานราชการผู้นั้น" คำตอบจากสำนักงาน กพ. ที่ http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=11&id=976&Itemid=228
คือ
"กรณีดังกล่าวไม่ต้องติดอากรแสตมป์ หากดำเนินการไปแล้ว ส่วนราชการจะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์ดังกล่าวคืนให้"
"กรณีดังกล่าวไม่ต้องติดอากรแสตมป์ หากดำเนินการไปแล้ว ส่วนราชการจะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์ดังกล่าวคืนให้"
6) การติดอากรแสตมป์
ติดเฉพาะการจ้างตามระเบียบพัสดุ โดย
- ต้นฉบับสัญญาจ้างหรือใบสั่งจ้าง ทุกจำนวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจ้าง ให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ติดอากรแสตมป์ 1 บาท ( และให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ขีดฆ่า อากรแสตมป์ ) เช่น จ้างเดือนละ 10,000 บาท ถ้าทำสัญญาจ้างครั้งเดียวตลอดปี 12 เดือน สินจ้างก็คือ 120,000 บาท แต่ถ้าทำสัญญาแค่ 6 เดือน สินจ้างก็คือ 60,000 บาท ( เช่น ค่าจ้าง 7,940 บาท ทำสัญญา 4 เดือน รวมค่าจ้าง 31,760 บาท ให้ติดอากร 32 บาท เป็นต้น ) ยกเว้นถ้าสินจ้างรวม 200,000 บาทขึ้นไป ให้ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดอากรแสตม์ป์
- คู่ฉบับสัญญาจ้างหรือคู่ฉบับใบสั่งจ้าง ถ้าต้นฉบับติดอากรแสตมป์ไม่เกิน 5 บาท ให้ติดอากรแสตมป์ที่คู่ฉบับ 1 บาท ถ้าต้นฉบับติดอากรแสตมป์เกิน 5 บาท ให้ติดอากรแสตมป์ที่คู่ฉบับ 5 บาท
5. วันที่ 3 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง ว่า
- ต้นฉบับสัญญาจ้างหรือใบสั่งจ้าง ทุกจำนวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจ้าง ให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ติดอากรแสตมป์ 1 บาท ( และให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ขีดฆ่า อากรแสตมป์ ) เช่น จ้างเดือนละ 10,000 บาท ถ้าทำสัญญาจ้างครั้งเดียวตลอดปี 12 เดือน สินจ้างก็คือ 120,000 บาท แต่ถ้าทำสัญญาแค่ 6 เดือน สินจ้างก็คือ 60,000 บาท ( เช่น ค่าจ้าง 7,940 บาท ทำสัญญา 4 เดือน รวมค่าจ้าง 31,760 บาท ให้ติดอากร 32 บาท เป็นต้น ) ยกเว้นถ้าสินจ้างรวม 200,000 บาทขึ้นไป ให้ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดอากรแสตม์ป์
- คู่ฉบับสัญญาจ้างหรือคู่ฉบับใบสั่งจ้าง ถ้าต้นฉบับติดอากรแสตมป์ไม่เกิน 5 บาท ให้ติดอากรแสตมป์ที่คู่ฉบับ 1 บาท ถ้าต้นฉบับติดอากรแสตมป์เกิน 5 บาท ให้ติดอากรแสตมป์ที่คู่ฉบับ 5 บาท
5. วันที่ 3 ต.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่อง ว่า
คน )
อาจให้ใช้การเขียนด้วยลายมือแทนการพิมพ์
2) ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ( ประชาชน ผู้ปกครอง ) ทราบถึงผลเสียของการจ้างทำการบ้าน อันส่งผลต่อ ผู้เรียน ครอบครัว สังคม และประเทศชาติในอนาคต
6. วันที่ 9 ต.ค.57 สุวิจักขณ์ ใสศรัทธาวงษ์ ครู ศรช. กศน.อ.วังสามหมอ ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า สัญาจ้างครู ศรช. ให้ ครู คศ. 1 ค้ำประกันได้ไหม เป็นข้อกำหนดเหมือนกันหมดไหม หรือแล้วแต่ กศน.นั้นๆ
2) ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ( ประชาชน ผู้ปกครอง ) ทราบถึงผลเสียของการจ้างทำการบ้าน อันส่งผลต่อ ผู้เรียน ครอบครัว สังคม และประเทศชาติในอนาคต
6. วันที่ 9 ต.ค.57 สุวิจักขณ์ ใสศรัทธาวงษ์ ครู ศรช. กศน.อ.วังสามหมอ ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า สัญาจ้างครู ศรช. ให้ ครู คศ. 1 ค้ำประกันได้ไหม เป็นข้อกำหนดเหมือนกันหมดไหม หรือแล้วแต่ กศน.นั้นๆ
ผมตอบว่า ผู้ค้ำประกันจะต้องเป็น
ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครู พนักงานเทศบาล พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่อยู่ในระดับปฏิบัติการหรือเทียบเท่าระดับปฏิบัติการ
ขึ้นไป ( ดูคำตอบเก่าในข้อ
5 ที่ https://www.gotoknow.org/posts/538893
) ครู คศ.1 ก็เป็นข้าราชการครูระดับปฏิบัติการ
แต่บางจังหวัด อาจมีนโยบายกำหนดเป็นอย่างอื่น เช่น ให้ ผอ.อำเภอ เป็นผู้ค้ำประกัน หรือให้คนค้ำประกันคนหนึ่งสามารถค้ำประกันครู ศรช.ได้เพียงคนเดียว เป็นต้น ผมคิดว่านโยบายการกำหนดเป็นอย่างอื่นนี้ น่าจะกำหนดได้ถ้ามีเหตุผลที่ดี และไม่กำหนดในลักษณะกลั่นแกล้งคนส่วนหนึ่งให้ยาก จนทำไม่ได้
7. วันเดียวกัน ( 9 ต.ค.) Montian Nunin ถามในกลุ่มครูนอกระบบ ว่า ถ้าครู ศรช.มีนักศึกษาไม่ถึง 60 คน ต้องเบิกจ่ายอย่างไร
แต่บางจังหวัด อาจมีนโยบายกำหนดเป็นอย่างอื่น เช่น ให้ ผอ.อำเภอ เป็นผู้ค้ำประกัน หรือให้คนค้ำประกันคนหนึ่งสามารถค้ำประกันครู ศรช.ได้เพียงคนเดียว เป็นต้น ผมคิดว่านโยบายการกำหนดเป็นอย่างอื่นนี้ น่าจะกำหนดได้ถ้ามีเหตุผลที่ดี และไม่กำหนดในลักษณะกลั่นแกล้งคนส่วนหนึ่งให้ยาก จนทำไม่ได้
7. วันเดียวกัน ( 9 ต.ค.) Montian Nunin ถามในกลุ่มครูนอกระบบ ว่า ถ้าครู ศรช.มีนักศึกษาไม่ถึง 60 คน ต้องเบิกจ่ายอย่างไร
ผมตอบว่า ตอบบ่อยแล้ว ดูในหนังสือแจ้งที่ https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/moneyteacher571.pdf ( ดูที่ข้อ 1.3 ในหนังสือฉบับที่
2 )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย