สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. วันที่ 15 ธ.ค.59 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า ปัญหาคาใจ ได้รับทราบมาว่า ในภาคเรียนหน้าคือ 1/60 ครูผู้สอนคนพิการ จะได้ย้ายไปเป็นตำแหน่งครู ศรช. ทั้งหมด นั้น เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่ และยังให้จัดการศึกษาทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิม ร่วมกับนักศึกษาใหม่ที่ต้องหาเพิ่มอีก 40 คน เดิมมีนักศึกษาพิการ 20 คน ต่อครูผู้สอน 1 คน คำถามคือ ทาง กศน. มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และ ค่ายานพาหนะ 1000 บาท/เดือนยังคงจะได้อยู่หรือไม่ ผลกระทบมีมากอยู่นะ ผู้น้อยขวัญเสียกันใหญ่เลย
1. วันที่ 15 ธ.ค.59 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า ปัญหาคาใจ ได้รับทราบมาว่า ในภาคเรียนหน้าคือ 1/60 ครูผู้สอนคนพิการ จะได้ย้ายไปเป็นตำแหน่งครู ศรช. ทั้งหมด นั้น เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่ และยังให้จัดการศึกษาทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิม ร่วมกับนักศึกษาใหม่ที่ต้องหาเพิ่มอีก 40 คน เดิมมีนักศึกษาพิการ 20 คน ต่อครูผู้สอน 1 คน คำถามคือ ทาง กศน. มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และ ค่ายานพาหนะ 1000 บาท/เดือนยังคงจะได้อยู่หรือไม่ ผลกระทบมีมากอยู่นะ ผู้น้อยขวัญเสียกันใหญ่เลย
เรื่องนี้ กลุ่มแผนงาน กศน.บอกว่า แล้วแต่ แต่ละจังหวัดจะบริหารจัดการ
จะจ้างครูผู้สอนคนพิการตามเดิมก็ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นครู ศรช.ก็ได้ ถ้าเปลี่ยนเป็นครู ศรช. ก็ต้องมีจำนวน นศ.รวมตามเกณฑ์ครู
ศรช. และไม่มีค่าพาหนะ
( เงินอุดหนุนรายหัว ทั้ง นศ.ปกติ และ นศ.พิการที่เรียน กศ.ขั้นพื้นฐาน ได้เท่ากัน แต่ต้องแบ่งไปเป็นค่าใช้จ่ายของครูผู้สอนคนพิการมากกว่า อาจทำให้อำเภอ/จังหวัดที่มีครูผู้สอนคนพิการมาก ขาดแคลนงบเงินอุดหนุน และเปลี่ยนการจ้างครูผู้สอนคนพิการให้เป็น ครู ศรช.)
2. คุณสมบัติในการสมัคร "ข้าราชการครู" กับ "พนักงานราชการครู"
คำว่า “ปริญญาทางการศึกษา” ( ที่ภาษาพูดว่า “วุฒิครู” ) นั้น ไม่ได้มีแค่ 3 วุฒิ แต่มีมาก คือ
1) การศึกษา
2) ครุศาสตร์
3) ศึกษาศาสตร์
4) ครุศาสตร์อุตสาหกรรม
5) ศิลปศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน )
6) วิทยาศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน หรือ การสอน )
7) คหกรรมศาสตร์ วิชาเอกคหกรรมศาสตร์ศึกษา
8) เกษตรศาสตร์ วิชาเอกเกษตรศึกษา
9) บริหารธุรกิจ วิชาเอกธุรกิจศึกษา
ถ้าเป็นการสมัคร “ข้าราชการครู” ไม่ว่าจะเป็น สพฐ. หรือ กศน. จะได้หมดทั้ง 1-9 นี้
แต่ถ้าเป็น “พนักงานราชการครู กศน.” จะระบุเฉพาะข้อ 1-3 ส่วนข้อ 4-9 ไม่ระบุ
( เงินอุดหนุนรายหัว ทั้ง นศ.ปกติ และ นศ.พิการที่เรียน กศ.ขั้นพื้นฐาน ได้เท่ากัน แต่ต้องแบ่งไปเป็นค่าใช้จ่ายของครูผู้สอนคนพิการมากกว่า อาจทำให้อำเภอ/จังหวัดที่มีครูผู้สอนคนพิการมาก ขาดแคลนงบเงินอุดหนุน และเปลี่ยนการจ้างครูผู้สอนคนพิการให้เป็น ครู ศรช.)
2. คุณสมบัติในการสมัคร "ข้าราชการครู" กับ "พนักงานราชการครู"
คำว่า “ปริญญาทางการศึกษา” ( ที่ภาษาพูดว่า “วุฒิครู” ) นั้น ไม่ได้มีแค่ 3 วุฒิ แต่มีมาก คือ
1) การศึกษา
2) ครุศาสตร์
3) ศึกษาศาสตร์
4) ครุศาสตร์อุตสาหกรรม
5) ศิลปศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน )
6) วิทยาศาสตร์ ( ศึกษาศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์การสอน หรือ การสอน )
7) คหกรรมศาสตร์ วิชาเอกคหกรรมศาสตร์ศึกษา
8) เกษตรศาสตร์ วิชาเอกเกษตรศึกษา
9) บริหารธุรกิจ วิชาเอกธุรกิจศึกษา
ถ้าเป็นการสมัคร “ข้าราชการครู” ไม่ว่าจะเป็น สพฐ. หรือ กศน. จะได้หมดทั้ง 1-9 นี้
แต่ถ้าเป็น “พนักงานราชการครู กศน.” จะระบุเฉพาะข้อ 1-3 ส่วนข้อ 4-9 ไม่ระบุ
การสมัครสอบเป็น “ข้าราชการครู” ทั้ง สพฐ. และ กศน. ถ้าไม่พูดถึงคุณสมบัติทั่วไปและวิชาเอก
ก็จะเหลือคุณสมบัติที่สำคัญ 2 ข้อ ( ต้องมีทั้ง 2 ข้อ ) คือ
1) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ กคศ.กำหนด และ
2) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
ส่วนคุณสมบัติด้านนี้ในการสมัครสอบ “พนักงานราชการครู กศน.” จะไม่กำหนดคุณสมบัติข้อ 2 มีเพียงข้อ 1 คือ
1) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา เฉพาะ 3 วุฒิ คือ ศึกษาศาสตร์ การศึกษา ครุศาสตร์ ถ้าเป็นคนในสังกัด กศน.เพิ่มอีก 1 วุฒิ คือ ป.บัณฑิต
( ป.บัณฑิตวิชาชีพครู เป็น "วุฒิ" ทางการศึกษา ที่สูงกว่า ป.ตรี แต่ต่ำกว่า ป.โท
ส่วน "ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู" ไม่ใช่ วุฒิ จึงไม่ได้ระบุไว้ )
3. วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.59 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า
ทำไม กศน.อำเภอไม่จัดสรรงบประมาณให้เด็กในกลุ่มครู ศรช.เรียนเสริม
อีกหนึ่งประเด็น คือทาง กศน.อำเภอ เรียกเก็บเงินค่าเทอมจากนักศึกษา หัวละ 120 บาท ผิดระเบียบมั้ย มีการออกใบเสร็จให้ แต่ได้นำเรื่องเก็บเงินไปขอมติที่ประชุมกรรมการสถานศึกษา และมติเห็นชอบให้เก็บได้ แต่ยังเป็นที่แคลงใจของคณะครูว่า ผอ.เก็บเงินส่วนนี้ผิดระเบียบ และเอาเงินไปทำอะไร
1) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ กคศ.กำหนด และ
2) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
ส่วนคุณสมบัติด้านนี้ในการสมัครสอบ “พนักงานราชการครู กศน.” จะไม่กำหนดคุณสมบัติข้อ 2 มีเพียงข้อ 1 คือ
1) มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา เฉพาะ 3 วุฒิ คือ ศึกษาศาสตร์ การศึกษา ครุศาสตร์ ถ้าเป็นคนในสังกัด กศน.เพิ่มอีก 1 วุฒิ คือ ป.บัณฑิต
( ป.บัณฑิตวิชาชีพครู เป็น "วุฒิ" ทางการศึกษา ที่สูงกว่า ป.ตรี แต่ต่ำกว่า ป.โท
ส่วน "ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู" ไม่ใช่ วุฒิ จึงไม่ได้ระบุไว้ )
3. วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.59 มีผู้ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า
ทำไม กศน.อำเภอไม่จัดสรรงบประมาณให้เด็กในกลุ่มครู ศรช.เรียนเสริม
อีกหนึ่งประเด็น คือทาง กศน.อำเภอ เรียกเก็บเงินค่าเทอมจากนักศึกษา หัวละ 120 บาท ผิดระเบียบมั้ย มีการออกใบเสร็จให้ แต่ได้นำเรื่องเก็บเงินไปขอมติที่ประชุมกรรมการสถานศึกษา และมติเห็นชอบให้เก็บได้ แต่ยังเป็นที่แคลงใจของคณะครูว่า ผอ.เก็บเงินส่วนนี้ผิดระเบียบ และเอาเงินไปทำอะไร
ผมตอบว่า
เรื่องงบสอนเสริม กศน.อำเภอสามารถบริหารจัดการตามความเหมาะสมของบริบทแต่ละอำเภอ
( งบสอนเสริมก็รวมอยู่ในงบเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้ทุกอำเภอนั่นแหละ แล้วแต่อำเภอจะบริหารจัดการงบเงินอุดหนุน อาจใช้งบพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมาทำโครงการคล้ายการสอนเสริมก็ได้ )
ส่วนเรื่องการเก็บเงินจากนักศึกษานั้น ผิด
การใช้ใบเสร็จรับเงินในราชการ กศน. เป็นหลักฐานการรับเงิน จะต้องนำเงินเข้าระบบบัญชีของ กศน.อำเภอ ถ้านำเงินเก็บรักษาถูกต้องตามระบบและดำเนินการเบิกจ่ายถูกต้องตามระเบียบ ก็ถือว่าไม่ได้ทุจริต แต่ก็ยังผิด เพราะสถานศึกษาและกรรมการสถานศึกษาไม่มีสิทธิ์ไม่มีอำนาจลงมติเก็บเงินในรายการที่ไม่มีระเบียบรองรับ ถ้าเป็นการบริจาค จะกำหนดให้บริจาคทุกคนไม่ได้ การจะบริจาคหรือไม่และจำนวนเงินต้องเป็นไปตามความสมัครใจของแต่ละคน
4. วันที่ 19 ธ.ค.59 รัตติกาล บุญแข็ง ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า ในการลงนามระเบียนแสดงผลการเรียนของนักศึกษาที่จบการศึกษา กรณีที่ผู้บริหารอำเภอไปราชการ ผู้รักษาการสามารถลงนามได้ไหม หรือต้องรอให้ ผอ. เป็นผู้ลงนามเพียงคนเดียว
( ผมเคยโพสต์เรื่องนี้แล้ว 2 ครั้งแล้ว )
เรื่องงบสอนเสริม กศน.อำเภอสามารถบริหารจัดการตามความเหมาะสมของบริบทแต่ละอำเภอ
( งบสอนเสริมก็รวมอยู่ในงบเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้ทุกอำเภอนั่นแหละ แล้วแต่อำเภอจะบริหารจัดการงบเงินอุดหนุน อาจใช้งบพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมาทำโครงการคล้ายการสอนเสริมก็ได้ )
ส่วนเรื่องการเก็บเงินจากนักศึกษานั้น ผิด
การใช้ใบเสร็จรับเงินในราชการ กศน. เป็นหลักฐานการรับเงิน จะต้องนำเงินเข้าระบบบัญชีของ กศน.อำเภอ ถ้านำเงินเก็บรักษาถูกต้องตามระบบและดำเนินการเบิกจ่ายถูกต้องตามระเบียบ ก็ถือว่าไม่ได้ทุจริต แต่ก็ยังผิด เพราะสถานศึกษาและกรรมการสถานศึกษาไม่มีสิทธิ์ไม่มีอำนาจลงมติเก็บเงินในรายการที่ไม่มีระเบียบรองรับ ถ้าเป็นการบริจาค จะกำหนดให้บริจาคทุกคนไม่ได้ การจะบริจาคหรือไม่และจำนวนเงินต้องเป็นไปตามความสมัครใจของแต่ละคน
4. วันที่ 19 ธ.ค.59 รัตติกาล บุญแข็ง ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า ในการลงนามระเบียนแสดงผลการเรียนของนักศึกษาที่จบการศึกษา กรณีที่ผู้บริหารอำเภอไปราชการ ผู้รักษาการสามารถลงนามได้ไหม หรือต้องรอให้ ผอ. เป็นผู้ลงนามเพียงคนเดียว
( ผมเคยโพสต์เรื่องนี้แล้ว 2 ครั้งแล้ว )
ผมตอบว่า มีบางคนบอกว่า
ผู้รักษาการในตำแหน่ง ไม่สามารถลงนามในบางเรื่อง เช่น ลงนามในใบ รบ. ที่จริงเป็นความเข้าใจผิด ที่ถูกคือ “ผู้รักษาการในตำแหน่ง มีอำนาจและหน้าที่ตามตำแหน่งที่รักษาการนั้น”
เพียงแต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ และไม่เร่งด่วน คอยได้
ผู้รักษาการในตำแหน่ง ก็อาจจะรอให้ผู้ดำรงตำแหน่งตัวจริงกลับมาตรวจสอบและลงนามเองก็ได้
การรอให้ผู้ดำรงตำแหน่งตัวจริงมาลงนามในเรื่องสำคัญนี้เป็นเพียง
"มารยาท" ไม่มีในระเบียบกฎหมาย
5. วันที่ 20 ธ.ค.59 มีผู้บริหารถามผมเรื่องการอนุญาตให้บุคลากรไปเข้ารับการฝึกอบรมที่หน่วยงานอื่น นอกสังกัด กศน. เป็นผู้จัดฝึกอบรม
5. วันที่ 20 ธ.ค.59 มีผู้บริหารถามผมเรื่องการอนุญาตให้บุคลากรไปเข้ารับการฝึกอบรมที่หน่วยงานอื่น นอกสังกัด กศน. เป็นผู้จัดฝึกอบรม
เรื่องนี้ ตามหนังสือสำนักงาน กศน.ที่ ศธ 0210.118/272
ลงวันที่ 26 ม.ค.54 กำหนดแนวปฏิบัติเรื่องการให้บุคลากรในสังกัดสำนักงาน
กศน.ไปเข้ารับการฝึกอบรม กรณีส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นเป็นผู้จัดการฝึกอบรมตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้ในการฝึกอบรม
การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ โดยจังหวัดต้องขออนุมัติการส่งบุคลากรไปเข้ารับการฝึกอบรมต่อสำนักงาน
กศน. ก่อน จึงจะอนุมัติให้บุคลากรผู้นั้นไปเข้ารับการฝึกอบรมได้ ( ถ้าหลักสูตรนั้นสำนักงาน
กศน.ยังไม่เคยเห็นชอบ ) และการพิจารณาอนุมัติต้องคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็น ยึดประโยชน์ของทางราชการและงบประมาณที่ใช้
สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของบุคลากร และเมื่อฝึกอบรมเสร็จบุคลากรผู้นั้นต้องทำรายงานเสนอภายใน
60 วัน
( ถาม กจ.กศน.เมื่อ 21 ธ.ค.59 กจ.บอกว่าหนังสือฉบับนี้ยังมีผลบังคับใช้ )
6. วันที่ 22 ธ.ค.59 San Sriprapun ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า ครูประจำกลุ่มสามารถเบิกค่าตอบแทน 2 กลุ่ม ได้หรือไม่
( ถาม กจ.กศน.เมื่อ 21 ธ.ค.59 กจ.บอกว่าหนังสือฉบับนี้ยังมีผลบังคับใช้ )
6. วันที่ 22 ธ.ค.59 San Sriprapun ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า ครูประจำกลุ่มสามารถเบิกค่าตอบแทน 2 กลุ่ม ได้หรือไม่
ผมตอบว่า การจ้างครูประจำกลุ่ม (
ยกเว้นครูประจำกลุ่มที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ) ปัจจุบันไม่ได้ให้เบิกค่าตอบแทนเป็นกลุ่มหรือเป็นรายหัว
แต่ให้เปลี่ยนเป็นการจ้างเหมาบริการ โดยมี "ขอบเขตงานจ้าง"
ให้รับผิดชอบผู้เรียนไม่เกิน 50 คน อัตราค่าจ้าง 19,200 บาท/ภาคเรียน ฉะนั้น
ให้รับผิดชอบผู้เรียนกลุ่มละไม่เกิน 40 คน ไม่เกิน 2 กลุ่ม รวมไม่เกิน 50 คน
ดูที่ https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/teacherJang.pdf
7. คืนวันที่ 26 ธ.ค.59 BenGy-Sirirat Chaywattana ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า จะปรับแผนดำเนินกิจกรรม มีข้อสงสัย การศึกษาต่อเนื่อง กลุ่มสนใจระยะสั้น วิชาชีพระยะสั้นไม่เกิน 30 ชั่วโมง ใน 1 วัน วิทยากรสามารถสอนได้ไม่เกินกี่ชั่วโมง
ดูที่ https://dl.dropboxusercontent.com/u/109014048/PDF/teacherJang.pdf
7. คืนวันที่ 26 ธ.ค.59 BenGy-Sirirat Chaywattana ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ค ว่า จะปรับแผนดำเนินกิจกรรม มีข้อสงสัย การศึกษาต่อเนื่อง กลุ่มสนใจระยะสั้น วิชาชีพระยะสั้นไม่เกิน 30 ชั่วโมง ใน 1 วัน วิทยากรสามารถสอนได้ไม่เกินกี่ชั่วโมง
ผมตอบว่า กลุ่มสนใจ วันละไม่เกิน 3 ชั่วโมง ผมโพสต์เรื่องนี้ 3 ครั้งแล้ว
( ผมไม่แน่ใจกับความหมายของคำว่า กลุ่มสนใจระยะสั้น และวิชาชีพระยะสั้นไม่เกิน 30 ชั่วโมง ของคุณ )
การจัดการศึกษาต่อเนื่อง นั้น ประกอบด้วย
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน
ให้ดำเนินการจัดการศึกษาต่อเนื่องโดยจัดเป็นหลักสูตรระยะสั้นใน 2 รูปแบบ ได้แก่
1.2 แบบชั้นเรียนวิชาชีพระยะสั้น เป็นการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรละ 31 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนกลางไม่กำหนดจำนวนชั่วโมงต่อวัน ผู้บริหารระดับจังหวัด/อำเภอสามารถกำหนดได้
( ผมไม่แน่ใจกับความหมายของคำว่า กลุ่มสนใจระยะสั้น และวิชาชีพระยะสั้นไม่เกิน 30 ชั่วโมง ของคุณ )
การจัดการศึกษาต่อเนื่อง นั้น ประกอบด้วย
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน
ให้ดำเนินการจัดการศึกษาต่อเนื่องโดยจัดเป็นหลักสูตรระยะสั้นใน 2 รูปแบบ ได้แก่
รูปแบบที่ 1 ชั้นเรียนวิชาชีพระยะสั้น ผู้เรียนต้องลงทะเบียนเป็นนักศึกษา กศน.
ใช้วิทยากรในการสอน สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทนกับค่าวัสดุเท่านั้น จัดได้ 2 แบบ คือ
1.1 แบบกลุ่มสนใจ เป็นการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรละไม่เกิน 30 ชั่วโมง วันละไม่เกิน 3 ชั่วโมง 1.2 แบบชั้นเรียนวิชาชีพระยะสั้น เป็นการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรละ 31 ชั่วโมงขึ้นไป ส่วนกลางไม่กำหนดจำนวนชั่วโมงต่อวัน ผู้บริหารระดับจังหวัด/อำเภอสามารถกำหนดได้
รูปแบบที่ 2 อบรมประชาชน
เป็นหลักสูตรระยะสั้นที่ใช้กระบวนการฝึกอบรมให้กับประชาชน
ไม่ต้องลงทะเบียนเป็นนักศึกษา กศน. สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทน ค่าวัสดุ ค่าอาหารว่าง
และอาหารกลางวันได้
ครูผู้สอนคนพิการ เป็นข้าราชการหรือไม่. และ จะมีการบรรจุเป็นข้าราชการ รึเปร่าครับ
ตอบลบครูผู้สอนคนพิการ ไม่ได้เป็นข้าราชการ จะเป็นข้าราชการก็ต้องสอบ ถ้าสอบได้ก็ได้เป็นข้าราชการ
ลบ