สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1. คืนวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค.60 ผมโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า “หยุด 5 วัน ( 13-17 เม.ย.60 )"
ปรากฏว่าคืนนั้นมีผู้ถามผมทางกลุ่มไลน์ว่า “ปฏิทินหยุด 13-16 ชดเชย 17 หรือ”
ผมตอบว่า “วันสงกรานต์จะหยุดราชการประจำปีในวันที่ 13-15 แต่ 15 ตรงกับวันเสาร์ จึงชดเชยวันจันทร์ที่ 17”
ผู้ถาม ยังถามต่อ ว่า “แต่ปฏิทินไม่ขึ้นเป็นวันหยุด ต้องทำเวรใหม่”
1. คืนวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค.60 ผมโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า “หยุด 5 วัน ( 13-17 เม.ย.60 )"
ปรากฏว่าคืนนั้นมีผู้ถามผมทางกลุ่มไลน์ว่า “ปฏิทินหยุด 13-16 ชดเชย 17 หรือ”
ผมตอบว่า “วันสงกรานต์จะหยุดราชการประจำปีในวันที่ 13-15 แต่ 15 ตรงกับวันเสาร์ จึงชดเชยวันจันทร์ที่ 17”
ผู้ถาม ยังถามต่อ ว่า “แต่ปฏิทินไม่ขึ้นเป็นวันหยุด ต้องทำเวรใหม่”
ผมตอบว่า มีผู้ทำปฏิทินเป็นร้อยราย แตกต่างกัน (
ปฏิทินในไดอารี กศน. ก็ไม่หยุดชดเชยวันที่ 17 ) เราจะถือปฏิบัติตามปฏิทินไม่ได้
ต้องถือปฏิบัติตามมติ ครม.
สำหรับ “วันหยุดชดเชยวันหยุดราชการประจำปี”
( ไม่นับวันหยุดของรัฐวิสาหกิจหรือธนาคาร ) ในปัจจุบัน
ครม.มีมติเมื่อวันที่ 1 พ.ค.44 ว่า
“กรณีวันหยุดราชการประจำปีวันใดตรงกับวันหยุดราชการประจำสัปดาห์ ให้เลื่อนวันหยุดราชการประจำปีวันนั้นไปหยุดในวันทำการถัดไป โดยให้หยุดชดเชยได้ไม่เกิน 1 วัน”
( และต่อมา ครม.มีมติในวันที่ 3 ก.พ.47 อีกว่า “เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาประกาศกำหนดให้ งด วันหยุดชดเชยหรือเปลี่ยนวันหยุดชดเชยได้ตามความเหมาะสม” )
2. เช้าวันที่ 28 มี.ค.60 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า พอจะทราบเรื่องการย้ายสถานที่ปฎิบัติงานของพนักงานราชการมั้ย ที่ทำเรื่องย้ายข้ามอำเภอกลับภูมิลำเนาเทอมที่แล้ว แต่มาวันนี้ มีหนังสือแจ้งสั่งการให้กลับต้นสังกัดเดิมที่ขอย้ายมา ในวันที่ 1 พ.ค.60 จะเกี่ยวกับการเปลี่ยนเลขาใหม่มั้ย โดนเรียกกลับหมดทุกตำแหน่งที่ขอย้ายเลยมั้ย แล้วจะมีโอกาสได้ย้ายกลับภูมิลำเนามั้ย
“กรณีวันหยุดราชการประจำปีวันใดตรงกับวันหยุดราชการประจำสัปดาห์ ให้เลื่อนวันหยุดราชการประจำปีวันนั้นไปหยุดในวันทำการถัดไป โดยให้หยุดชดเชยได้ไม่เกิน 1 วัน”
( และต่อมา ครม.มีมติในวันที่ 3 ก.พ.47 อีกว่า “เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาประกาศกำหนดให้ งด วันหยุดชดเชยหรือเปลี่ยนวันหยุดชดเชยได้ตามความเหมาะสม” )
2. เช้าวันที่ 28 มี.ค.60 มีผู้ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า พอจะทราบเรื่องการย้ายสถานที่ปฎิบัติงานของพนักงานราชการมั้ย ที่ทำเรื่องย้ายข้ามอำเภอกลับภูมิลำเนาเทอมที่แล้ว แต่มาวันนี้ มีหนังสือแจ้งสั่งการให้กลับต้นสังกัดเดิมที่ขอย้ายมา ในวันที่ 1 พ.ค.60 จะเกี่ยวกับการเปลี่ยนเลขาใหม่มั้ย โดนเรียกกลับหมดทุกตำแหน่งที่ขอย้ายเลยมั้ย แล้วจะมีโอกาสได้ย้ายกลับภูมิลำเนามั้ย
ผมตอบว่า ไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนเลขาธิการ
กศน.ใหม่ เลขาฯท่านก่อนก็ไม่มีนโยบายให้ย้ายหลังทำสัญญาจ้าง
1
ต.ค.59 แต่เคยมีนโยบายให้ย้ายก่อนนั้น ผมเคยเห็นระเบียบที่ว่า ทำสัญญาจ้างแล้ว จะให้ไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่ตามสัญญาได้รวมปีละไม่เกิน
4 เดือน ระเบียบเป็นอย่างนี้ แต่
ผอ.จังหวัดบางจังหวัดยังให้ย้ายอยู่
สำหรับโอกาสที่จะย้ายได้นั้น คงต้องรอดูตอนเปลี่ยนสัญญาใหม่
สำหรับโอกาสที่จะย้ายได้นั้น คงต้องรอดูตอนเปลี่ยนสัญญาใหม่
หลังจากผมตอบไปแล้ว ผมได้ถามเรื่องนี้กับ
กจ.กศน. ได้รับคำตอบว่า
ที่ท่าน รก.ผอ.กจ. เคยบอกผมว่า “เรื่องการย้ายพนักงานราชการภายในจังหวัด กำลังจะเสนอให้มอบอำนาจให้ ผอ.จังหวัด เป็นผู้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ค.พ.ร. เช่น ให้ไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่ที่กำหนดในสัญญาจ้างได้รวมปีละไม่เกิน 4 เดือน โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการด้วย” นั้น
ปรากฏว่า เสนอไปแล้ว ท่านปลัดกระทรวงไม่เห็นด้วย ท่านไม่มอบอำนาจ
การย้ายพนักงานราชการทุกกรณี ( ทั้งภายใน-ภายนอกจังหวัด มีอัตราว่าง มีผู้ลาออก ) ท่านให้เสนอส่วนกลางพิจารณา
ซึ่งก็จะพิจารณาให้พนักงานราชการไปปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่ตามสัญญาได้เป็นครั้งคราว ไม่บ่อย รวมปี งปม.ละไม่เกิน 4 เดือน โดยจะระบุช่วงเวลาไป-กลับแต่ละครั้งชัดเจน
ที่ท่าน รก.ผอ.กจ. เคยบอกผมว่า “เรื่องการย้ายพนักงานราชการภายในจังหวัด กำลังจะเสนอให้มอบอำนาจให้ ผอ.จังหวัด เป็นผู้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ค.พ.ร. เช่น ให้ไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่ที่กำหนดในสัญญาจ้างได้รวมปีละไม่เกิน 4 เดือน โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการด้วย” นั้น
ปรากฏว่า เสนอไปแล้ว ท่านปลัดกระทรวงไม่เห็นด้วย ท่านไม่มอบอำนาจ
การย้ายพนักงานราชการทุกกรณี ( ทั้งภายใน-ภายนอกจังหวัด มีอัตราว่าง มีผู้ลาออก ) ท่านให้เสนอส่วนกลางพิจารณา
ซึ่งก็จะพิจารณาให้พนักงานราชการไปปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่ตามสัญญาได้เป็นครั้งคราว ไม่บ่อย รวมปี งปม.ละไม่เกิน 4 เดือน โดยจะระบุช่วงเวลาไป-กลับแต่ละครั้งชัดเจน
กจ.กศน. จะแจ้งเรื่องนี้มาให้จังหวัดถือปฏิบัติ
ผมถามต่อว่า ถ้าจังหวัดให้ย้ายไปก่อนแล้ว จะต้องให้กลับไหม กจ.บอกว่า ถ้าปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่ตามสัญญาถึง 4 เดือนแล้ว ก็ต้องให้กลับ
3. เรื่องน่าสนใจจากที่ประชุมบอร์ด ก.ค.ศ. วันที่ 29 มี.ค.60
ผมถามต่อว่า ถ้าจังหวัดให้ย้ายไปก่อนแล้ว จะต้องให้กลับไหม กจ.บอกว่า ถ้าปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่ตามสัญญาถึง 4 เดือนแล้ว ก็ต้องให้กลับ
3. เรื่องน่าสนใจจากที่ประชุมบอร์ด ก.ค.ศ. วันที่ 29 มี.ค.60
1)
การสมัครสอบครูผู้ช่วย สำหรับ 36 สาขาที่ไม่ขาดแคลน ใช้เอกสารการสมัครที่คุรุสภาออกให้เพื่อแสดงว่าสามารถทำการสอนได้
ได้ทั้ง 4 ชนิด คือ
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู = มีมาตรฐานครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กำหนด
- ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน = มีมาตรฐานความรู้ครบ 9 มาตรฐาน แต่ยังไม่มีประสบการณ์การสอน
- หนังสือรับรองสิทธิ = ใบรับรองระหว่างรอการอนุมัติหลังยื่นขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
- หนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพครูโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ = หนังสือที่ออกให้แก่สถานศึกษา ที่ขออนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทำการสอนที่โรงสถานศึกษาตามเหตุจำเป็น
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู = มีมาตรฐานครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กำหนด
- ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน = มีมาตรฐานความรู้ครบ 9 มาตรฐาน แต่ยังไม่มีประสบการณ์การสอน
- หนังสือรับรองสิทธิ = ใบรับรองระหว่างรอการอนุมัติหลังยื่นขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
- หนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพครูโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ = หนังสือที่ออกให้แก่สถานศึกษา ที่ขออนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทำการสอนที่โรงสถานศึกษาตามเหตุจำเป็น
2) กรณีบางสาขาที่เรียนจบมา
ชื่อไม่ตรงกับสาขาวิชาเอกที่จะสมัคร แต่มีความคล้ายคลึง
ให้นับหน่วยกิตของรายวิชาที่ตรงสาขาวิชาเอกที่จะสมัคร ให้ได้ไม่น้อยกว่า 30
หน่วยกิต นั้น ให้นับโดยไม่ต้องดูเกรด
( เดิมกำหนดให้นับเฉพาะวิชาที่ได้เกรดไม่ต่ำกว่า C )
3) ยกเลิกการขอวิทยฐานะเชิงประจักษ์
ตาม ว13 ปี 56 ไม่ให้ยื่นขอรายใหม่อีกแล้ว
ส่วนรายเก่าที่ยื่นไว้แล้วยังไม่ได้รับการพิจารณา 5,183 คน จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์
ว13 ต่อไป แต่ใครจะขอถอนไปเปลี่ยนเป็นยื่นแบบใหม่ก็ได้ โดยคาดว่าจะประกาศใช้แบบใหม่ในวันที่
5 ก.ค.60
4. วันที่ 29 มี.ค.60 ZyBen ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า หนังสือรับรองสิทธิคืออะไร
4. วันที่ 29 มี.ค.60 ZyBen ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า หนังสือรับรองสิทธิคืออะไร
ผมตอบว่า หนังสือรับรองสิทธิ คือ หนังสือที่ออกให้แก่ผู้ที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนรับ
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งเดิมต้องรออนุมัติภายใน 60 วัน ในระหว่างที่ยังไม่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
คุรุสภาจะออก หนังสือรับรองสิทธิ นี้ ให้ใช้แทนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ไปก่อน
( แต่ปัจจุบันคุรุสภาจะรีบออกใบอนุญาตฯให้ โดยไม่มีการออกหนังสือรับรองสิทธินี้แล้ว )
( แต่ปัจจุบันคุรุสภาจะรีบออกใบอนุญาตฯให้ โดยไม่มีการออกหนังสือรับรองสิทธินี้แล้ว )
5. วันที่ 31 มี.ค.60 มีบุคลากร กศน.อำเภอ ค... จังหวัด พ...
ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า
ฉันได้รับอนุญาตให้เดินทางไปราชการเข้าอบรมในจังหวัด 3 วัน เดินทางไปกลับ ระยะทางเที่ยวละ 50 กม. โดยขออนุญาตไปราชการตามขั้นตอน
และเมื่ออบรมเสร็จ จึงขออนุญาตเบิกค่าเดินทางไปราชการครั้งนี้ แต่ ผอ.ไม่อนุญาตให้เบิก ( ผอ.จะเบิกด้วย แต่ ผอ.ไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอน จังหวัดไม่ให้ ผอ.เบิก ผอ.จึงไม่อนุญาตให้ฉันเบิกด้วย )
อยากปรึกษาว่า ฉันจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ให้ได้สิทธิดังกล่าว เพราะต้องไปราชการบ่อยครั้ง ไม่เคยได้เบิกเลย
ฉันได้รับอนุญาตให้เดินทางไปราชการเข้าอบรมในจังหวัด 3 วัน เดินทางไปกลับ ระยะทางเที่ยวละ 50 กม. โดยขออนุญาตไปราชการตามขั้นตอน
และเมื่ออบรมเสร็จ จึงขออนุญาตเบิกค่าเดินทางไปราชการครั้งนี้ แต่ ผอ.ไม่อนุญาตให้เบิก ( ผอ.จะเบิกด้วย แต่ ผอ.ไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอน จังหวัดไม่ให้ ผอ.เบิก ผอ.จึงไม่อนุญาตให้ฉันเบิกด้วย )
อยากปรึกษาว่า ฉันจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ให้ได้สิทธิดังกล่าว เพราะต้องไปราชการบ่อยครั้ง ไม่เคยได้เบิกเลย
นอกจากนี้
การดำเนินงานโครงการกิจกรรมต่างๆ ผอ.เอาเงินที่ยืมงบประมาณไปถือเอง และใช้จ่ายโดยไม่มีรายละเอียดล้างเงินยืม
โดย ผอ.ไม่ได้เป็นผู้ยืมเงิน ไม่ใช่เจ้าของโครงการ วิธีการดังกล่าวสมควรหรือไม่ ผู้ยืมเงินต้องรับผิดชอบเมื่อเอกสารหลักฐานการล้างเงินยืมล่าช้า
ควรดำเนินการอย่างไร
ผมตอบว่า
1) ผอ.สามารถที่จะไม่ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการได้ ถ้ามีเหตุผล เช่น งบประมาณไม่พอ ค่าใช้จ่ายไม่มากน่าจะเสียสละได้ ช่วงเวลาเดินทางในแต่ละวันไม่ครบตามเกณฑ์ เป็นต้น แต่ก็ควรบอกก่อนว่าจะไม่ให้เบิก โดยเมื่อคุณทำเรื่องขออนุญาตเดินทางไปราชการเสนอถึง ผอ. พร้อมระบุว่าการไปราชการครั้งนี้จะขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการด้วย ถ้า ผอ.จะไม่ให้เบิกก็ต้องคุยกันตั้งแต่ตอนอนุญาตให้ไปราชการ
( ที่คุณบอกเหตุผลที่ ผอ.ไม่ให้เบิกมานั้น คงจะไม่ใช่มั้ง คุณอาจจะคิดคาดเดาไปเองมั้ง )
1) ผอ.สามารถที่จะไม่ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการได้ ถ้ามีเหตุผล เช่น งบประมาณไม่พอ ค่าใช้จ่ายไม่มากน่าจะเสียสละได้ ช่วงเวลาเดินทางในแต่ละวันไม่ครบตามเกณฑ์ เป็นต้น แต่ก็ควรบอกก่อนว่าจะไม่ให้เบิก โดยเมื่อคุณทำเรื่องขออนุญาตเดินทางไปราชการเสนอถึง ผอ. พร้อมระบุว่าการไปราชการครั้งนี้จะขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการด้วย ถ้า ผอ.จะไม่ให้เบิกก็ต้องคุยกันตั้งแต่ตอนอนุญาตให้ไปราชการ
( ที่คุณบอกเหตุผลที่ ผอ.ไม่ให้เบิกมานั้น คงจะไม่ใช่มั้ง คุณอาจจะคิดคาดเดาไปเองมั้ง )
ในการขออนุญาตเดินทางไปราชการครั้งต่อไป
ควรระบุให้ชัดเจนว่าจะขอเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ และถ้า ผอ.จะไม่ให้เบิกก็ขอคุยกับ
ผอ.ให้เข้าใจเหตุผลกัน
2) การที่ ผอ.นำเงินโครงการที่บุคลากรเป็นผู้ยืม
ไปบริหารจัดการเอง แล้วไม่มีรายละเอียดล้างเงินยืม นั้น ถ้าจังหวัดทวงหลักฐานล้างเงินยืมมาที่ผู้ยืม ผู้ยืมก็น่าจะเล่าให้จังหวัดฟังว่า
ผอ.นำเงินยืมไปบริหารจัดการเองแล้วไม่มีรายละเอียดล้างเงินยืม ให้จังหวัดช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหา
( หลังจากที่โพสต์นี้ไป
ท่านประเสริฐ หอมดี ซึ่งท่านเป็นทั้งผู้ตรวจราชการกระทรวง ศึกษาธิการภาค และยังทำหน้าที่รองเลขาธิการ
กศน.อยู่ บอกว่า
ข้อ 1) หากดำเนินการขออนุญาตไปราชการถูกต้อง ก็เบิกจ่ายได้ตามระเบียบ
ข้อ 2) เรื่อง ผอ.นำเงินยืมที่ใช้ชื่อบุคลากรเป็นผู้ยืม ไปถือและใช้จ่ายเอง และยังไม่มีหลักฐานส่งล้างเงินยืมตามเวลา นั้น ต้องดำเนินการตามระเบียบนะ หากแก้ไขไม่ได้ ให้แจ้งเรื่องไปที่ส่วนกลาง จะแจ้งประสานให้ดำเนินการให้ถูกต้อง )
6. วันที่ 4 เม.ย.60 มีครูจาก กศน.อ.พรหมพิราม ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า ในกรณีที่ นศ.มาขอวุฒิ แต่ นศ.มาขอวุฒิครั้งเดียวคือ ม.ต้นพร้อม ม.ปลาย แต่นายทะเบียนเขาบอกว่าต้องให้นายทะเบียนคนเดินเซ็นต์วุฒิ ม.ต้น แต่ ม.ปลายเซ็นต์ได้เพราะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน
สอบถามขอความกระจ่าง
ข้อ 1) หากดำเนินการขออนุญาตไปราชการถูกต้อง ก็เบิกจ่ายได้ตามระเบียบ
ข้อ 2) เรื่อง ผอ.นำเงินยืมที่ใช้ชื่อบุคลากรเป็นผู้ยืม ไปถือและใช้จ่ายเอง และยังไม่มีหลักฐานส่งล้างเงินยืมตามเวลา นั้น ต้องดำเนินการตามระเบียบนะ หากแก้ไขไม่ได้ ให้แจ้งเรื่องไปที่ส่วนกลาง จะแจ้งประสานให้ดำเนินการให้ถูกต้อง )
6. วันที่ 4 เม.ย.60 มีครูจาก กศน.อ.พรหมพิราม ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กผม ว่า ในกรณีที่ นศ.มาขอวุฒิ แต่ นศ.มาขอวุฒิครั้งเดียวคือ ม.ต้นพร้อม ม.ปลาย แต่นายทะเบียนเขาบอกว่าต้องให้นายทะเบียนคนเดินเซ็นต์วุฒิ ม.ต้น แต่ ม.ปลายเซ็นต์ได้เพราะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน
สอบถามขอความกระจ่าง
ผมตอบว่า ปกติ ถ้าเพิ่งขอวุฒิ ม.ต้น ในตอนนี้
ทั้งนายทะเบียนและ ผอ.คนปัจจุบันก็เป็นผู้ลงนาม
แต่.. วุฒิ ม.ต้น จะออกหลังวันสมัครขึ้นทะเบียนเป็น นศ.ม.ปลายไม่ได้
ทำไมเพิ่งจะมาออก วุฒิ ม.ต้นตอนนี้ ถ้าออกตอนนี้ก็ต้องออกย้อนหลัง คือลงวันที่ไม่หลังวันสมัครขึ้นทะเบียนเป็น นศ.ม.ปลาย เมื่อออกย้อนหลัง ก็ต้องให้นายทะเบียนและ ผอ.คนเก่าที่ดำรงตำแหน่งในวันออกใบ รบ.ย้อนหลัง เป็นผู้ลงนาม
( การออกใบวุฒิย้อนหลัง ไม่ถูกต้อง ถ้านายทะเบียนหรือ ผอ. ย้าย หรือเกษียณ หรือเสียชีวิตไปแล้ว จะทำอย่างไร )
7. วันเดียวกัน ( 4 เม.ย.) Jum Jim ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า อนุมัติจบหลักสูตรวันไหน พร้อมกันทั่วประเทศหรือเปล่า
แต่.. วุฒิ ม.ต้น จะออกหลังวันสมัครขึ้นทะเบียนเป็น นศ.ม.ปลายไม่ได้
ทำไมเพิ่งจะมาออก วุฒิ ม.ต้นตอนนี้ ถ้าออกตอนนี้ก็ต้องออกย้อนหลัง คือลงวันที่ไม่หลังวันสมัครขึ้นทะเบียนเป็น นศ.ม.ปลาย เมื่อออกย้อนหลัง ก็ต้องให้นายทะเบียนและ ผอ.คนเก่าที่ดำรงตำแหน่งในวันออกใบ รบ.ย้อนหลัง เป็นผู้ลงนาม
( การออกใบวุฒิย้อนหลัง ไม่ถูกต้อง ถ้านายทะเบียนหรือ ผอ. ย้าย หรือเกษียณ หรือเสียชีวิตไปแล้ว จะทำอย่างไร )
7. วันเดียวกัน ( 4 เม.ย.) Jum Jim ถามผมในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ว่า อนุมัติจบหลักสูตรวันไหน พร้อมกันทั่วประเทศหรือเปล่า
ผมตอบว่า อาจจะพร้อมกันทั่วประเทศหรือไม่ก็ได้ และในแต่ละภาคเรียนอนุมัติให้จบหลักสูตรได้หลายครั้ง คือแต่ละคนอาจจบไม่พร้อมกัน เช่น คนที่สอบซ่อม สอบ e-Exam อาจจบช้ากว่า บางคนก็จบตั้งแต่ต้นเทอมเพราะเทอมนี้เหลือแต่ กพช.อย่างเดียว พอทำ กพช.ครบก็จบเลย วันอนุมัติจบคือวันที่ผ่านเงื่อนไขการจบครบ 4 ข้อ ปกติโปรแกรม ITw จะกำหนดวันจบของ นศ.ส่วนใหญ่ไว้ให้แล้ว แต่ก็เปลี่ยนวันได้ เช่นไม่ได้อนุมัติในวันนั้นเพราะเป็นวันหยุด ผอ.ไม่ได้มาอนุมัติ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย