สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ
ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 7 เรื่อง ดังนี้
1.เย็นวันที่ 14 ก.ค.58 ผมตอบ Pichest Sreesompan ที่ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า มี นศ.มาสอบถามการสมัครเรียนแต่เขามีปัญหาตรงที่ใบวุฒิการศึกษา สถาบัน ปวช.เอกชนที่เขาเคยเรียนไม่ยอมคืนให้ สงสัยว่าทางโรงเรียนเก่ามีสิทธิ์อันชอบธรรมหรือไม่ที่จะยึดไว้ก่อนจนกว่าจะจ่ายค่าเทอมก่อนแม้จะลาออกแล้ว
1.เย็นวันที่ 14 ก.ค.58 ผมตอบ Pichest Sreesompan ที่ถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า มี นศ.มาสอบถามการสมัครเรียนแต่เขามีปัญหาตรงที่ใบวุฒิการศึกษา สถาบัน ปวช.เอกชนที่เขาเคยเรียนไม่ยอมคืนให้ สงสัยว่าทางโรงเรียนเก่ามีสิทธิ์อันชอบธรรมหรือไม่ที่จะยึดไว้ก่อนจนกว่าจะจ่ายค่าเทอมก่อนแม้จะลาออกแล้ว
ผมตอบว่า ไม่ว่าคำตอบของผมจะเป็นอย่างไร
ทาง ปวช.เอกชนเขาคงไม่สนใจคำตอบผม ที่ถูกต้องใบวุฒิเดิมตอนสมัคร
เมื่อสถานศึกษาตรวจสอบแล้วต้องคืนฉบับจริงให้ ( กศน.เราเองบางแห่งก็ยังเก็บฉบับจริงไว้
ซึ่งไม่ถูกต้อง ) เรื่องนี้ผมไม่รู้จะแนะนำอย่างไร
จะให้ไปขอใบแทนที่สถานศึกษาดั่งเดิมก็ไม่รู้จะถูกต้องหรือเปล่า
2. วันที่ 16 ก.ค.58 ผมเรียนถามท่าน ผอ.กจ.กศน. เกี่ยวกับการทำชำนาญการพิเศษของข้าราชการตำแหน่ง บรรณารักษ์ นักวิชาการศึกษา นักจัดการงานทั่วไป ท่านบอกว่า
2. วันที่ 16 ก.ค.58 ผมเรียนถามท่าน ผอ.กจ.กศน. เกี่ยวกับการทำชำนาญการพิเศษของข้าราชการตำแหน่ง บรรณารักษ์ นักวิชาการศึกษา นักจัดการงานทั่วไป ท่านบอกว่า
- ถ้าทำชำนาญการพิเศษผ่าน
ก็จะต้องย้ายไปดำรงตำแหน่งตามตำแหน่งที่สมัครทำชำนาญการพิเศษ
- เมื่อย้ายไปแล้ว จะขอย้ายในภายหลังอีก ก็ต้องขอย้ายไปยังตำแหน่งว่างหรือย้ายสับเปลี่ยนกับ ตำแหน่งเดียวกัน ระดับเดียวกัน เช่น บรรณารักษ์ชำนาญการพิเศษ ก็ต้องย้ายไปยังตำแหน่งบรรณารักษ์ชำนาญการพิเศษด้วยกัน
- ที่ใดยังเป็นอัตราตำแหน่งชำนาญการ ไม่ใช่ชำนาญการพิเศษ ถ้ามีปริมาณงาน/ภาระงานเพิ่มมากขึ้น จะขอปรับปรุงอัตราตำแหน่งเป็นชำนาญการพิเศษ ก็ให้จังหวัดเสนอเรื่องไป ( จะได้รับอนุมัติหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของ ก.ค.ศ. )
3. คืนวันเดียวกัน ( 16 ก.ค.58 ) มีผู้ถามในเฟซ อ.สมกมล ( คุรุสภา ) ว่า เมื่อไหร่จะเปิด ป. บัณฑิตสำหรับบุคคลทั่วไปบ้าง ตอนนี้ รร.เลิกจ้างแล้ว เด็กไม่มี อดเรียนเลย
- เมื่อย้ายไปแล้ว จะขอย้ายในภายหลังอีก ก็ต้องขอย้ายไปยังตำแหน่งว่างหรือย้ายสับเปลี่ยนกับ ตำแหน่งเดียวกัน ระดับเดียวกัน เช่น บรรณารักษ์ชำนาญการพิเศษ ก็ต้องย้ายไปยังตำแหน่งบรรณารักษ์ชำนาญการพิเศษด้วยกัน
- ที่ใดยังเป็นอัตราตำแหน่งชำนาญการ ไม่ใช่ชำนาญการพิเศษ ถ้ามีปริมาณงาน/ภาระงานเพิ่มมากขึ้น จะขอปรับปรุงอัตราตำแหน่งเป็นชำนาญการพิเศษ ก็ให้จังหวัดเสนอเรื่องไป ( จะได้รับอนุมัติหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของ ก.ค.ศ. )
3. คืนวันเดียวกัน ( 16 ก.ค.58 ) มีผู้ถามในเฟซ อ.สมกมล ( คุรุสภา ) ว่า เมื่อไหร่จะเปิด ป. บัณฑิตสำหรับบุคคลทั่วไปบ้าง ตอนนี้ รร.เลิกจ้างแล้ว เด็กไม่มี อดเรียนเลย
อ.สมกมล ตอบว่า บุคคลทั่วไปถ้าอยากเป็นครู
ให้เรียน ป.ตรี หรือ ป.โท หลักสูตรทางการศึกษาที่คุรุสภารับรองเท่านั้น เมื่อเรียนจบก็ไปสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่คุรุสภาได้เช่นเดียวกับผู้ที่เรียน
ป.บัณฑิตตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เป็นต้นมา ( ถ้าเรียนหลักสูตรก่อนปีที่คุรุสภารับรอง ไม่ได้ ) ไม่มีหลักสูตร ป.บัณฑิต
ให้บุคคลทั่วไปเรียนแล้ว ถ้าบุคคลทั่วไปต้องการเรียน ป.บัณฑิตวิชาชีพครู
ต้องไปเป็นครูผู้สอนในสถานศึกษา เช่น
ครูจ้างสอนโดยได้รับหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากกคุรุสภาเท่านั้น
การผ่านการอบรมมาตรฐานวิชาชีพครู 9 มาตรฐาน
ก็สามารถขอใบอนุญาตปฏิบัติการสอนหรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่ ใช้วิธีเรียน ป.บัณฑิต จะดีกว่าอบรม เพราะ
ป.บัณฑิต เป็น “วุฒิการศึกษา” ( สูงกว่า
ป.ตรี แต่ต่ำกว่า ป.โท ใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้ด้วย ) ส่วนการผ่านการอบรมไม่ได้วุฒิการศึกษา
ได้เพียงวุฒิบัตรเพื่อไปแสดงในการขอรับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน (
กรณีที่ยังไม่มีประสบการณ์สอน ) หรือ รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (
กรณีที่มีประสบการณ์สอนอยู่แล้ว ) เท่านั้น ( ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ก็ไม่ใช่วุฒิการศึกษา )
ในส่วนของการอบรม จะเปิดอบรมระยะที่ 2 ประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2558 ( ยังไม่แน่ )
ผู้ที่มีสิทธิเข้าอบรม คือ
- ผู้ที่เคยเทียบโอนหรือทดสอบความรู้ 9 มาตรฐานเดิมของคุรุสภา ผ่านแล้วอย่างน้อย 1 มาตรฐาน ก่อน 4 ต.ค.56
- ผู้ที่เรียนปริญญาทางการศึกษา ( บางคนเรียกว่าวิชาครู ) หลักสูตรเก่า ( หลักสูตร 4 ปี ) โดยเริ่มเรียนก่อน 4 ต.ค.56 และจบหลัง 4 ต.ค.56 สามารถใช้สิทธิอบรมได้ภายใน 1 ปีนับจากวันที่เรียนจบ
4. ช่วงวันที่ 20-24 ก.ค.58 ผมไปประชุมสร้างข้อสอบ บรรณาธิการและจัดชุดข้อสอบปลายภาค 1/58 ที่โรงแรมนนทบุรีพาเลซ โดยวันแรกท่านรองเลขาธิการฯ ดร.วีระกุล อรัณยะนาค มาเป็นประธานเปิดการประชุม ท่านแจ้งข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
ในส่วนของการอบรม จะเปิดอบรมระยะที่ 2 ประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2558 ( ยังไม่แน่ )
ผู้ที่มีสิทธิเข้าอบรม คือ
- ผู้ที่เคยเทียบโอนหรือทดสอบความรู้ 9 มาตรฐานเดิมของคุรุสภา ผ่านแล้วอย่างน้อย 1 มาตรฐาน ก่อน 4 ต.ค.56
- ผู้ที่เรียนปริญญาทางการศึกษา ( บางคนเรียกว่าวิชาครู ) หลักสูตรเก่า ( หลักสูตร 4 ปี ) โดยเริ่มเรียนก่อน 4 ต.ค.56 และจบหลัง 4 ต.ค.56 สามารถใช้สิทธิอบรมได้ภายใน 1 ปีนับจากวันที่เรียนจบ
4. ช่วงวันที่ 20-24 ก.ค.58 ผมไปประชุมสร้างข้อสอบ บรรณาธิการและจัดชุดข้อสอบปลายภาค 1/58 ที่โรงแรมนนทบุรีพาเลซ โดยวันแรกท่านรองเลขาธิการฯ ดร.วีระกุล อรัณยะนาค มาเป็นประธานเปิดการประชุม ท่านแจ้งข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
1) กศน. กำลังเสนอ พรบ. 2 ฉบับ คือ
- พรบ.จัดตั้งกรมการศึกษานอกโรงเรียน ( ตั้ง กศน.เป็นนิติบุคคล หัวหน้าส่วนราชการตำแหน่งอธิบดี )
- พรบ.การศึกษานอกโรงเรียน เพื่อแยกการจัดการศึกษานอกโรงเรียน ออกจากการศึกษาในระบบมากขึ้น ( ปัจจุบันการศึกษานอกโรงเรียนต้องมีคุณภาพมาตรฐานเดียวกับการศึกษาในระบบ )
พรบ.ทั้ง 2 ฉบับนี้ ได้รับการสนับสนุนทั้งจากท่านปลัดกระทรวง และท่าน รมว.ศธ.
- พรบ.จัดตั้งกรมการศึกษานอกโรงเรียน ( ตั้ง กศน.เป็นนิติบุคคล หัวหน้าส่วนราชการตำแหน่งอธิบดี )
- พรบ.การศึกษานอกโรงเรียน เพื่อแยกการจัดการศึกษานอกโรงเรียน ออกจากการศึกษาในระบบมากขึ้น ( ปัจจุบันการศึกษานอกโรงเรียนต้องมีคุณภาพมาตรฐานเดียวกับการศึกษาในระบบ )
พรบ.ทั้ง 2 ฉบับนี้ ได้รับการสนับสนุนทั้งจากท่านปลัดกระทรวง และท่าน รมว.ศธ.
2) ครู กศน.เรากลัว นศ.สอบตก จึงมีการบอกข้อสอบ ทั้งในระหว่างคุมสอบ
แก้กระดาษคำตอบหลังการสอบ และแก้คะแนนการตรวจกระดาษคำตอบ ซึ่งเป็นการทุจริตที่ร้ายแรง จะลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง อาจห้ามครู กศน.คุมสอบปลายภาค (
ลักษณะเดียวกับที่ห้ามครู กศน.คุมสอบเทียบระดับฯแล้ว )
3) สตง.เสนอให้ยุติการสร้างอาคาร
กศน.ตำบล เพิ่ม เพราะจากการที่ สตง. ตรวจประเมิน
กศน.ตำบลที่สร้างด้วยเงินงบประมาณไปแล้วโดยเงินค่าก่อสร้างและค่าครุภัณฑ์รวมเป็นล้านบาท
พบว่า
กศน.ตำบลหลายแห่งดำเนินการตามภาระกิจไม่ครบถ้วน คอมพิวเตอร์ของ
กศน.ตำบลก็ถูกแบ่งไปใช้ที่ กศน.อำเภอ/จังหวัด
4) ส่วนกลางกำลังพิจารณากำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคลากรประเภทต่าง ๆ ใหม่
ให้ชัดเจนและแตกต่างกัน รวมทั้งกำหนดเกณฑ์การปฏิบัติงานสำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงาน
5. เช้าวันที่ 21 ก.ค.58 Wutnfe Mfu เขียนบนไทม์ไลน์เฟซบุ๊คผม ว่า ได้นำใบจบ ป.บัณฑิต ไปแสดงเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่คุรุสภา เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องฝึกสอนใหม่ เพราะจบนานแล้ว จบตั้งแต่ปี 53 โดยต้องฝึกสอนในโรงเรียนในระบบ ต้องทำเอกสารทั้งหมดที่ได้ถ่ายรูปนี้
5. เช้าวันที่ 21 ก.ค.58 Wutnfe Mfu เขียนบนไทม์ไลน์เฟซบุ๊คผม ว่า ได้นำใบจบ ป.บัณฑิต ไปแสดงเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่คุรุสภา เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องฝึกสอนใหม่ เพราะจบนานแล้ว จบตั้งแต่ปี 53 โดยต้องฝึกสอนในโรงเรียนในระบบ ต้องทำเอกสารทั้งหมดที่ได้ถ่ายรูปนี้
ครั้งแรกผมตอบว่า เราอาจคุยกับเขาด้วยความไม่เข้าใจระบบ
จนทำให้เขาไม่เชื่อว่าเราจะทำตามข้อ 11, 12 ในเอกสารนี้ได้
ที่ผ่านมา การเก็บประสบการณ์การสอนเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สามารถปฏิบัติการสอนที่ กศน.ได้
ต้องบอกเขาว่า กศน.เป็นสถานศึกษาตามกฎหมายและผ่านการรับรองจาก สมศ.
แต่ครู กศน.บางคนไปพูดจนเขาไม่เชื่อถือแล้วว่า กศน.เป็นไปตามข้อ 11 ในเอกสาร จึงลำบากไปทั้งประเทศ ( คำว่า "ยืดหยุ่น" ควรใช้พูดภายใน กศน. เท่านั้น )
ที่ผ่านมา การเก็บประสบการณ์การสอนเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สามารถปฏิบัติการสอนที่ กศน.ได้
ต้องบอกเขาว่า กศน.เป็นสถานศึกษาตามกฎหมายและผ่านการรับรองจาก สมศ.
แต่ครู กศน.บางคนไปพูดจนเขาไม่เชื่อถือแล้วว่า กศน.เป็นไปตามข้อ 11 ในเอกสาร จึงลำบากไปทั้งประเทศ ( คำว่า "ยืดหยุ่น" ควรใช้พูดภายใน กศน. เท่านั้น )
ต่อมา วันเดียวกัน ( 21 ก.ค.) ผมได้ถามเรื่องนี้กับคุรุสภา
ได้รับคำตอบว่า ปฏิบัติการสอนที่ กศน.ได้
ถ้า มีชั่วโมงสอนอย่างน้อยปีละ 210 ชั่วโมง
6. ตามที่ผมแชร์เรื่องเดิมในเฟซบุ๊ค ว่า กรณีเอกสารหลักฐานการศึกษาที่ตรวจสอบนั้น
ไม่ใช่เอกสารฉบับจริง มีการปลอมแปลง
ให้สถานศึกษาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง และรายงานให้สำนักงาน
กศน.ทราบโดยด่วน นั้น
มีผู้นำมาถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า หากไม่ดำเนินการแจ้งความและรายงานฯ จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่..?
มีผู้นำมาถามในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊คผม ว่า หากไม่ดำเนินการแจ้งความและรายงานฯ จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่..?
ผมตอบว่า ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
มีความผิด ( ผมเคยเขียนเรื่องนี้ในข้อ
6 ที่ http://nfeph.blogspot.com/2014/11/etv.html
)
7. วันเสาร์ที่ 25 ก.ค.58 ยาย จอก ถามต่อท้ายโพสต์เก่าในเฟซบุ๊คผม ที่ผมแชร์ ว่า ในกรณีที่ นศ.รับวุฒิไป 2 ปีแล้ว คงเก็บไว้ไม่ดี รูปติดวุฒิหลุดออกหายไป แต่ นศ.นำรูปใหม่มาติดแล้วนำไปสมัครเรียนที่อื่น ทางโรงเรียนตรวจสอบวุฒิมาทาง กศน. กรณีนี้แก้ไขอย่างไร และ ต้องแจ้ง กศน.จังหวัดทุกครั้งที่ตรวจสอบวุฒิ นศ. หรือว่ารวมส่งครั้งเดียว
7. วันเสาร์ที่ 25 ก.ค.58 ยาย จอก ถามต่อท้ายโพสต์เก่าในเฟซบุ๊คผม ที่ผมแชร์ ว่า ในกรณีที่ นศ.รับวุฒิไป 2 ปีแล้ว คงเก็บไว้ไม่ดี รูปติดวุฒิหลุดออกหายไป แต่ นศ.นำรูปใหม่มาติดแล้วนำไปสมัครเรียนที่อื่น ทางโรงเรียนตรวจสอบวุฒิมาทาง กศน. กรณีนี้แก้ไขอย่างไร และ ต้องแจ้ง กศน.จังหวัดทุกครั้งที่ตรวจสอบวุฒิ นศ. หรือว่ารวมส่งครั้งเดียว
ผมตอบว่า
1) รูปเป็นส่วนสำคัญของใบ รบ. ให้ตอบกลับไปที่โรงเรียนที่ส่งใบวุฒินั้นมาให้เราตรวจสอบ ว่า มีการเปลี่ยนรูป
ปกติ แม้นานกว่า 2 ปีรูปก็ไม่หลุด ( นศ.อาจจงใจเปลี่ยนรูป ) กรณีรูปหลุดหาย ถือว่าใบ รบ.นั้น ชำรุด ใช้ไม่ได้ ต้องยื่นเรื่องขอใบใหม่ ซึ่งต้องประทับตราประจำสถานศึกษาด้วยหมึกสีแดงชาด ให้บางส่วนของตราติดบนรูปถ่าย และบางส่วนของตราติดที่ที่หัวหน้าสถานศึกษาจะเซ็นชื่อ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนรูป ( เคยมีกรณีใช้ชื่อคนอื่นมาเรียนแทนกัน )
1) รูปเป็นส่วนสำคัญของใบ รบ. ให้ตอบกลับไปที่โรงเรียนที่ส่งใบวุฒินั้นมาให้เราตรวจสอบ ว่า มีการเปลี่ยนรูป
ปกติ แม้นานกว่า 2 ปีรูปก็ไม่หลุด ( นศ.อาจจงใจเปลี่ยนรูป ) กรณีรูปหลุดหาย ถือว่าใบ รบ.นั้น ชำรุด ใช้ไม่ได้ ต้องยื่นเรื่องขอใบใหม่ ซึ่งต้องประทับตราประจำสถานศึกษาด้วยหมึกสีแดงชาด ให้บางส่วนของตราติดบนรูปถ่าย และบางส่วนของตราติดที่ที่หัวหน้าสถานศึกษาจะเซ็นชื่อ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนรูป ( เคยมีกรณีใช้ชื่อคนอื่นมาเรียนแทนกัน )
2) คำว่ารวมส่งครั้งเดียวหมายถึงอย่างไร
สัปดาห์ละครั้งเดียว หรือเดือนละครั้ง เทอมละครั้ง หรือปีละครั้ง .. ในหนังสือที่สำนักงาน
กศน.แจ้งเรื่องนี้ ไม่ได้แจ้งให้รวมส่งครั้งเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย