วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

ขอโอนเป็นครู-ขอย้ายช่วงไหน-คำสั่งออกเมื่อไร-ยังไม่ได้ย้ายต้องยื่นใหม่ไหม, โปรแกรม KSM 1.1 20 ก.พ.57, ขาดสอบมาก, หนังสือราชการ ให้ใช้กระดาษบันทึกข้อความ, ผู้บริหาร กศน.กับการเมือง, เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้จ่ายเงิน, ขอเครื่องราชฯ-ชั้นสายสะพาย



สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจ ขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้  7  เรื่อง ดังนี้


         1. วันที่ 21 ก.พ.57 คุณ Nok Noknok บรรณารักษ์ชำนาญการ ถามในหน้าเฟซบุ๊คผม ว่า  การพิจารณาโอนย้ายจากบรรณารักษ์เป็นข้าราชการครู พิจารณาคุณสมบัติยังไง
             และถามอีกว่า
การขอโอนย้ายให้ทำช่วงเดือนไหน ที่เคยทำไปแล้ว ไม่เอามาพิจารณาใหม่เหรอ
             และ 
นายสำลี มลิวัน บรรณารักษ์ หสม.อ.ป่าติ้ว ถามว่า เขียนย้าย 1-16 กุมภาพันธ์ เมื่อกี้ ประมาณเดือนไหนคำสั่งย้ายจะออก

             ผมตอบว่า   ให้ดูข้อมูลต่าง ๆ ในคำตอบเดิม จาก
             - ในข้อ 3 ที่ 
http://nfeph.blogspot.com/2013/11/asean.html  และ
             - ในข้อ
3.1 ที่ http://www.gotoknow.org/posts/438277

             ตามระเบียบ ก.ค.ศ. การขอย้ายกรณีปกติ ให้ยื่นขอย้ายได้ปีละ 2 ช่วง คือ 1-15 ก.พ. กับ 1-15 ส.ค. ( ก.ค.ศ.ส่งระเบียบนี้ให้ส่วนราชการต่าง ๆ ครั้งเดียว แล้วไม่ได้แจ้งใหม่อีกปีละ 2 รอบ )
             คำร้องขอย้ายใช้ได้รอบเดียว ถ้ายังไม่ได้ย้ายตามคำขอ เมื่อถึงช่วงขอย้ายใหม่ต้องยื่นใหม่
             คำสั่งย้ายจะออกเมื่อไร ไม่แน่ ปกติ ยื่นขอย้ายในช่วง
1-15 ก.พ. ถ้าได้ย้าย คำสั่งย้ายจะออกประมาณ เม.ย.-พ.ค. ถ้าขอย้ายในช่วง 1-15
ส.ค. คำสั่งย้ายจะออกประมาณ ต.ค.-พ.ย.


         2. โปรแกรมเทียบระดับสูงสุดฯ (KSM) รุ่น 1.1 ( 20 ก.พ. 57 ) จากคุณสุขุม ศรีวิไลฤทธิ์
             มีรายการแก้ไขเพิ่มเติมจากรุ่นวันที่ 6 ม.ค. 57 ดังนี้
             1)  แก้ไขโปรแกรมให้ใช้งานในระดับสำนักงาน กศน.จังหวัดได้ (โดยต้อง restore ข้อมูลของอำเภอก่อน) เพื่อออกรายงานต่างๆในภาพรวมระดับจังหวัด และเพิ่มการตรวจสอบเลขบัตรประชาชนซ้ำในจังหวัด
             2)  แก้ไขในเรื่องสถิติ (เมนูหลัก 6) โดยแก้ไขการสร้างข้อมูลสถิติและการรายงานสถิติ ให้มีความถูกต้องมากขึ้น และเพิ่มเมนูรวบรวมข้อมูลสถิติระดับสำนักงาน กศน. ส่วนกลาง (ใช้ได้เฉพาะรหัสสถานศึกษา 1210000000)
             3)  แก้ไขรายงานสั่งข้อสอบภาคทฤษฎี (เมนูหลัก 2 ย่อย 8) โดยปรับรูปแบบไฟล์ที่บันทึกเป็น excel ใหม่ให้คล้ายกับที่ส่งให้ สทศ.
             4)  แก้ไขการบันทึกคะแนนภาคทฤษฎี (เมนูหลัก 3 ย่อย 2) โดยแก้ปัญหาคะแนนไม่ถูกต้องเมื่อย้อนกลับไปแก้ไขคะแนนรอบแรก หลังจากบันทึกคะแนนรอบสองไปแล้ว
             5)  แก้ไขปัญหาการติดตั้งบน Windows 8 บางเครื่องไม่ได้ และแก้เรื่องรันโปรแกรมบางครั้งจะขึ้นหน้าจอติดตั้ง
             6)  แก้ไขการอ่านคะแนนภาคประสบการณ์ ให้แสดงคะแนนทฤษฎีของคนที่ไม่มีคะแนนประสบการณ์ด้วย
             7)  ปรับแก้ไขข้อมูลกรณีเปิดปีการศึกษาผิด จาก 2/56 เป็น 1/57 โดยที่โปรแกรมจะเปลี่ยนรหัสนักศึกษาและข้อมูลลงทะเบียนไปเป็น 2/56 ให้อัตโนมัติ รวมถึงเปลี่ยนข้อมูลการเปิดปีการศึกษาจาก 1/57 เป็น 2/56
             8)  แก้ไขบัคอื่นๆ

             link สำหรับ download โปรแกรมติดตั้งโปรแกรมเทียบระดับสูงสุดฯ รุ่น 1.1
             -
https://dl.dropboxusercontent.com/u/15540884/KSM_20022014_Setup.zip    หรือ
             -
https://drive.google.com/file/d/0B6tQobXfGWLEUVdRaURTaFQ4RG8/edit?usp=sharing



         3. วันที่ 23 ก.พ.57 ท่าน ผอ.สนง.กศน.จ.พระนครศรีอยุธยา โพสต์ในเฟซบุ๊ค ว่า  ไปเยี่ยมสนามสอบ กศน.อ.บางปะหัน มีปัญหาขาดสอบมาก ได้รับการรายงานว่าเป็นผลกระทบจากการเพิ่มจำนวนชั่วโมง กพช.จาก 100 ชั่วโมงเป็น 200 ชั่วโมง มีผลให้นักศึกษาจำนวนหนึ่งตัดสินใจจะเลิกเรียน     กรณีนี้จะต้องหาแนวทางจูงใจนักศึกษาให้กลับมาเรียนต่อ โดยออกแบบ กพช.ให้ทำได้ 200 ชั่วโมงอย่างไม่ลำบากนัก  เพราะหากนักศึกษาลดน้อยถอยลงก็จะมีผลต่อจำนวนครูที่จ้างโดยเงินอุดหนุน

             คืนวันที่ 24 ก.พ.57 ผมเข้าไปโพสต์ร่วมแสดงความคิดเห็น ว่า
             การสอบปลายภาค ถ้าจัดห้องสอบตามจำนวนผู้ลงทะเบียนเรียนทุกคน ห้องละ 30 คน ก็คงขาดสอบมากอีก
             ยากที่จะทำให้สมดุล ระหว่าง
             1)  นโยบายการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ( กพช. 200 ชม., เรียนสัปดาห์ละ 9 ชั่วโมง ถ้าไม่เป็นตามเกณฑ์ไม่มีสิทธิ์สอบปลายภาค )
             2)  การจัดการศึกษา เพื่อ ให้ครูมีงานทำ ( ครูทุกประเภทต้องมีจำนวนนักศึกษาตามเกณฑ์  ส่งผลให้มีนักศึกษาจำนวนหนึ่งที่ไม่เต็มใจหรือไม่รู้ตัวในการขึ้นทะเบียน/ลงทะเบียนเรียน )
             การทำให้สมดุล ยาก ( พูดได้ แต่ทำ... ... )  ถ้าทำตามข้อ 1. ( ทำแบบจริง ๆ ) ผู้ไม่มีสิทธิสอบจะมีประมาณ 60 %
             ถ้าจะต้องเลือก ครูและผู้บริหารจะเลือกยึดข้อ 2. ลดข้อ 1.  โดยให้เหตุผลว่า การทำให้นักศึกษา กศน.มีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องทำ กพช.200 ชม. ไม่ต้องมาเรียนสัปดาห์ละ 9 ชั่วโมง ก็มีคุณภาพได้



         4. หนังสือราชการระหว่าง กศน.อำเภอ กับ กศน.จังหวัด ให้ใช้กระดาษบันทึกข้อความ
             วันที่ 25 ก.พ.57 คุณ “Tassung Ka” ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า  หนังสือราชการจาก กศน.อำเภอไปสำนักงาน กศน.จังหวัด ปกติที่เคยใช้เป็นหนังสือครุฑ ต่อมามีผู้รู้บอกว่าหน่วยงานเดียวกันให้เปลี่ยนเป็นใช้บันทึกข้อความ  ขอถามระเบียบงานสารบรรณอย่างไหนถูกต้อง หรือใช้ได้ทั้งสองอย่าง ถ้าใช้ได้ทำไมไม่ใช้ให้เหมือนกัน
             ผมตอบว่า
             - หนังสือภายนอก ( กระดาษตราครุฑ )  ใช้ติดต่อระหว่างส่วนราชการกับหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกส่วนราชการนั้น เช่น ใช้ติดต่อระหว่างส่วนราชการหนึ่งกับส่วนราชการหนึ่ง ( ต่างกรม )  หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอื่นใดซึ่งไม่ใช่ส่วนราชการ หรือมีถึงบุคคลภายนอก เช่น กระทรวงพาณิชย์ มีหนังสือ ถึงกระทรวงอุตสาหกรรม  กรมการค้าต่างประเทศมีหนังสือถึงบริษัท กก จำกัด หรือถึง นายกร เก่งทุกทาง เป็นต้น
             - หนังสือภายใน ( กระดาษบันทึกข้อความ )  ใช้ติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจังหวัดเดียวกัน
             ที่ถูก หนังสือราชการติดต่อระหว่าง กศน.อำเภอ กับ กศน.จังหวัด ซึ่งอยู่ในสังกัดส่วนราชการเดียวกัน ต้องเป็นหนังสือภายใน  แต่เรา "นิยม" ใช้เป็นหนังสือภายนอกกันมานาน ก็ไม่ถือว่าใช้ไม่ได้



         5. ผู้บริหาร กศน. กับการแสดงบทบาททางการเมือง
             คืนวันเดียวกัน ( 25 ก.พ.) คุณ Amy Ae ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า  ขอทราบเหตุผลว่า ทำไมผู้บริหารของ กศน ในแต่ละจังหวัดแต่ละอำเภอถึงไม่กล้าที่จะแสดงบทบาททางการเมืองบ้าง เพราะว่ากลัวใช่มั้ย
             และผู้บริหารแต่ละอำเภอเวลาจะไปราชการในแต่ละครั้ง ต้องสำรองเงินจ่ายเองก่อนแล้วถึงตั้งเบิกเงินจากรัฐภายหลัง เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า  รวมทั้ง เวลามีกิจกรรมเกี่ยวกับชาวบ้าน ผู้บริหารจะต้องจ่ายไปก่อนแล้วตั้งเบิกภายหลังจริงหรือเปล่า
             ผมตอบว่า
             1)  การแสดง หรือไม่แสดงบทบาททางการเมือง ของผู้บริหาร อาจมี 2 สาเหตุ
                  - แสดงออกหรือไม่แสดงออกอย่างไร เพราะเขาเองก็มีทัศนะทางการเมืองตรงตามนั้น  ( ผู้บริหารบางคนก็มีทัศนะทางการเมืองขั้วหนึ่ง บางคนก็อีกขั้วหนึ่ง )
                  - แสดงออกหรือไม่แสดงออก เพื่อความอยู่รอด เพื่อความก้าวหน้า
             2)  การไปราชการ หรือการจัดกิจกรรม ก็มีทั้ง 2 แบบ บางคนบางครั้งก็ทดรองจ่ายเงินส่วนตัวไปก่อน บางคนบางครั้งก็ยืมเงินราชการทดรองจ่ายไปก่อน  ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเงินจำนวนมากจะยืมเงินราชการทดรองจ่ายไปก่อน



         6. วันที่ 28 ก.พ.56 “เมธวีย์ ฟาร์ม” ครู ศศช. กศน.อ.กัลยาณิวัฒนา ถามในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า  เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้จ่ายเงินได้ ของ กศน. คืออะไร
             ผมตอบว่า   การยื่นเสียภาษีประจำปี นอกจากจะใช้เลขประจำตัวประชาชนของผู้เสียภาษีแล้ว สรรพากรเขาให้ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้จ่ายเงินด้วย ซึ่งหมายถึงผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย เช่น ถ้าอยู่ในอำเภอ/จังหวัด ก็ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ของ สนง.กศน.จังหวัด
             ต้องถามที่ สนง.กศน.จังหวัดนั้น ๆ  แต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน


         7. เย็นวันที่ 3 มี.ค.57 ผมเผยแพร่ในเฟซบุ๊ค เรื่องการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจำปี และการขอเครื่องราชฯชั้นสายสะพาย ว่า  ถึงเวลาขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจำปีแล้ว
             - พนักงานราชการที่ได้เครื่องราชฯชั้นที่ 5 ( บ.ช. : เบญจมาภรณ์ช้างเผือก ) มาครบ 5 ปี นับถึงวันที่ 5 ธ.ค.57 ปีนี้ให้ขอพระราชทานชั้นที่ 4 ( จ.ม. : จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย )

             - ตามหนังสือแจ้งของสำนักงาน กศน. ในส่วนของการขอเครื่องราชฯชั้นสายสะพาย ( ป.ม. ) สำหรับระดับ 8 ( คศ.3 ) ให้ขอได้เฉพาะผู้บริหาร ที่เงินเดือนเต็มขั้น ได้ ท.ช.มาแล้ว 5 ปี และเป็นปีที่เกษียณ หรือจะเกษียณ เท่านั้น   ดูหนังสือแจ้งของสำนักงาน กศน. ที่  http://203.147.62.104/webnfe/attachments/40807_File0069.PDF
             ( เดิม
ผู้บริหาร และครู คศ.3 ที่ไม่ใช่ปีที่จะเกษียณ ถ้าเข้าเกณฑ์ 2 ข้อคือ
             1)  วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ เงินเดือนถึง 53,050 บาท ตั้งแต่ ก่อนวันที่ 1 ต.ค.57
             2)  ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ ท.ช.มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันที่ 5 ธ.ค.57
             ก็ให้ขอไปด้วยได้ แต่ที่ขอไปปีที่แล้วไม่ได้รับอนุมัติ 
             ดูข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ในข้อ 1 ที่  http://nfeph.blogspot.com/2014/02/ratcha.html
)

                 ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0508/1330 ลงวันที่ 3 มี.ค.57 ( ลงในเว็บไซต์สำนักงาน กศน. ) แจ้งว่า  คศ.3 ขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ได้เฉพาะ ผอ.ที่จะเกษียณเท่านั้น  ฉะนั้น ถ้าไม่ใช่ คศ.4 และไม่ใช่ ผอ.ที่จะเกษียณ ก็ไม่ต้องขอเครื่องราชฯชั้นสายสะพายไปอีกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ/ข้อสงสัย